เรื่องแปลก ใหม่ น่าสนใจ ข่าวสาร บันเทิง สนุก เซ็กซี่ sexy ที่คุณ อยากรู้ ที่นี่ครับ ^^

SAMAZshop

Translate

ภาพหลุด "อั้ม-โน๊ต" แนบชิดบนเตียงผ้าใบ

เมื่อวานเพิ่งอ่านข่าวสาวอั้มแกบอกว่าเบื่อคุณเพื่อนคนใกล้ตัวเนี่ยแหละที่เป็นคนปล่อยข่าวทั้งภาพหลุด ทั้งเรื่องเหวี่ยงวีน ขว้างกุญแจ แล้วก็เพิ่งโดนคือปล่อยภาพหลุดที่สาวอั้มไปเที่ยวทะเลกับหนุ่มโน๊ตมา 

งานนี้สยามบันเทิงเค้าเป็นคนจัดให้จ้า 

 

 

 

 

 

9 ชุดออกงานหลุดโลก แห่งปี 2010

รวมชุดแปลกๆ หลุดโลก เก๋ๆ ของดารา นักร้อง ฮอลีวูด แห่งปี 2010  บางชุดหลุดโลกสุดโต่ง บางชุดก็ไม่แปลกเท่าใหร่ แต่ว่า มันก็ทำให้เราได้คิดว่า .. เค้าจะใส่ทำไม เพื่ออะไร ใส่ลำบากมั้ย ตอนใส่คิดอะไรอยู่น๊าาาาาาา อิอิ
แปลก ใช่ว่าจะสวย .. สวยก็อาจจะไม่แปลก เนอะ

1. Christina aguilera 
นี่ยังไม่แปลกมาก ยัง ทำ มะ ดา อยู่ฮ่ะ
อาจจะไม่ธรรมดาเท่าใหร่ เก๊าะอีตรง เป้าของเธอออออ อิอิ

  

2. เจ๊คนนี้ เคธี่ เพอร์รี่ เรืองแสงกันทั้งคืนทีเดียว .. เอ๊ะ หรือเธอจาเปน มานาวต่างดุ๊ด ??



3. Kesha ชุดนี้ไม่แปลก แต่ก็ ไม่ธรรมดา อ่ะฮ้าาา ไม่ธรรมดา



4. lady gaga   
ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาว์น จริงๆ ชุดเนื้อสดนี้
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ อีกแว้ววฮ่า



รองเท้านั้น จะคันมั้ยนะ ? คุณกาก้า

5. สาวจาก gossip girls 
Leighton meester 
ไม่ได้แปลกหลุดโลกมากมาย แต่ก็เป็นชุดที่น่ามองที่สุด อิอิ



6. Nicki Minaj 
นี่มันชุด กุ้ง กั้ง หรือว่า แมงป่อง ง่ะ
ถือว่าเป็นชุดที่หวือหวาพอสมควร สีสันจัดจ้านตัดกัน พร้อมดีไซน์แปลกๆ



7. sarah jessica parker 
ตัวแม่ ไอคอนของสาวๆ หลายๆ คน กับชุดดีไซน์แปลกๆ ของเธอ
เด่นสุดต้องเป็นอะไรที่อยู่บนหัวนั่นแล



8. rihanna แอร๊ยยยยย ชุดอะไรของเธอก๊านนนน
หรือว่ามันจาเป็น เทรนด์ใหม่ ล่าาาาาาาสุด ที่เรายังตามไม่ทัน ฮึ ?



9. สาวจาก กอสสิบ เกลิล์อีกคน
Taylor Momsen 
เป็นอะไรที่ แปลก แหวก .. แล้วสวยมั้ย (ม่ายยยยชอบบ คห. ส่วนตัวน๊า)



แง่ะ

....

ปี 2011 หรือปีอื่นๆ ต่อไปจากนี้ เราจะได้เห็นชุดแปลกกว่านี้อีกมั้ยนะ

คิดไม่ออกแล้วว่าจะต้องแต่งยังไง ถึงจะแปลกไปกว่านี้ วู้

เรื่องของแฟชั่น ว่ากันม่ายล่ายซิงๆ 

ภาพหาดูยาก "วัดสวามีนารายัน" ประเทศอินเดีย

ขอบคุณ สำหรับภาพชุดนี้ เป็นที่ต้องการมาก เขาเข้มงวดมาก ห้ามนำกล้องถ่ายรูป กล้อง VDO เข้าไป ค้นตัวเราขณะผ่านประตู ยิ่งกว่าตรวจที่สนามบินอีก ชื่อ "วัดสวามีนารายัน"เป็นของฮินดู ด้วยศรัทธา ศิลปินเป็นหมื่นคนมาช่วยกันสร้าง ใช้เวลาเพียง ๕ ปีเสร็จ ทั้งที่จริงๆจะใช้เวลา ๔๐ ปี จะแกะสลักบนวิหารจนไม่มีที่ว่างช้างทุกเชือกที่อยู่รอบฐานวิหาร มี ๒,๐๐๐ เชือกจะแกะสลักไม่เหมือนกันเลย ใครได้ชมวัดนี้ถือเป็นบุญตามาก





 
Largest Hindu temple in the world 

The central feature of the complex is the ornately hand-carved stone temple, or mandir . Built according to ancient Vedic texts, and measuring 356 ft (109 m) long, 316 ft (96 m) wide and 141 ft (43 m) high, it is the world ' s largest comprehensive Hindu temple.

It was built within five years by 11,000 artisans and volunteers of BAPS Swaminarayan Sanstha, an international socio-religious organisation.
 

Exterior carvings 

The outer wall of the temple is profusely covered with 200 stone figures of India ' s sages and intricate depictions of nature.

 
Temple sanctum 

Enshrined in the temple ' s inner sanctum is an 11 ft.-high gilded murti (sacred image) of Bhagwan Swaminarayan, the deity to whom the temple and complex are dedicated. Other images include those of popular Hindu deities and spiritual leaders of the Swaminarayan tradition.

 

In terior carvings 

The temple is a fusion of pink sandstone on the outside and white marble on the inside, but with no structural steel used anywhere. The interior is filled with 234 ornately carved pillars, 9 ornate domes, and intricately designed ceilings. In total, there are more than 20,000 carved figures.

 

Elephant plinth 

The temple stands on a 1,070 ft.-long plinth of 148 full-sized elephants carved entirely from stone. Together, they weigh 3,000 tonnes.



 

Stone colonnade 

The temple and its surrounding area are garlanded by a 3,000 ft (214 m)-long two-tiered stone colonnade. It features 1,152 pillars, 145 windows and 154 cupolas.


 

เปิด! พินัยกรรมหลวงตามหาบัว




หลังหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ละสังขารได้มีการเปิดพินัยกรรมของหลวงตาที่มีการเขียนไว้ตั้งแต่ 11 ปีก่อนเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2543 โดยหลวงตาได้ระบุถึงการจัดการทรัพย์สินต่างๆ ไว้ดังนี้ 
1.ทองคำที่ได้รับบริจาคให้นำไปหลอม ส่วนเงินสดที่ได้รับบริจาคให้นำไปซื้อทองคำแล้วนำทองคำมาหลอมรวมกันมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อเป็นทุนสำรองของประเทศ 
2.ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดงานศพ และ ดูแลทรัพย์สินทั้งทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อน และ ทรัพย์สินที่ได้รับศรัทธาจากญาติโยมในงานศพโดยให้คณะกรรมการดำเนินงานอย่างเปิดเผยตามเจตนารมณ์ 
3.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล 9 คน ประกอบด้วย 1. อาจารย์ฟัก สันติธรรมโมขณะนี้พระอาจารย์ฟักได้มรณภาพแล้ว 2. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสัสโก 3. อาจารย์ปริญญา วัฒโธ 4. อาจารย์วันชัย วิจิตโต 5.นายเชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมตรี 6.นายศิริ คูสกุล 7. ม.ร.ว.ทองศิริ ทองแถม 8.พ.ต.อ.กฤษดา บูรณะพานิชย์ และ 9.พ.ต.ปัจจัย นารินรักษ์ สำหรับพินัยกรรมนี้ได้ตั้งให้พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน รองเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เป็นผู้จัดการมรดก 
โดยพินัยกรรมที่มีเนื้อหาหาเหมือนกันนี้ได้มีการจัดทำขึ้นทั้งหมด 3 ฉบับเก็บรักษาไว้ 3 แห่งคือ ที่วัดป่าบ้านตาด ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จังหวัดอุดรธานี และ ธนาคารกสิกรไทย จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระอาจารย์ปัญญา วัฒโธ เป็นพยาน และ มีพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เป็นพยาน และ ผู้พิมพ์ 
สำหรับหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนเป็นพระนักปฏิบัติด้านวิปัสนากรรมฐานเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป หลังจากที่ท่านทำโครงการ "ผ้าป่าช่วยชาติ" ตั้งแต่ปี 2541 แม้จะมีเสียงทักท้วงว่าการดำเนินการระดมเงินทุนมิใช่กิจของสงฆ์แต่หลวงตากลับมองว่า กิจสงเคราะห์ทางโลกเป็นกิจอย่างหนึ่งที่สงฆ์ต้องปฏิบัติ ซึ่งหลวงตาได้ยึดปฏิบัติมาตั้งแต่เริ่มบวช 
ก่อนทำโครงการผ้าป่าช่วยชาติหลวงตามหาบัว ได้เดินทางแจกสิ่งของให้กับโรงพยาบาลในท้องถิ่นกันดารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะถือว่า นอกจากการบำเพ็ญประโยชน์ทางธรรม พระสงฆ์ ยังมีหน้าที่บำเพ็ญประโยชน์ทางโลกด้วย และเ มื่อมีวิกฤตทางการเงินในประเทศไทยเมื่อปี 2540 หลวงตาจึงได้คิดทำโครงการ "ผ้าป่าช่วยชาติ" ขึ้นโดยได้รับเงินบริจาคจากคนไทยทั่วประเทศรวมถึงคนไทยในต่างประเทศด้วย 
เงิน ทองคำ เงินเหรียญสหรัฐ เงินตราสกุลต่างประเทศ หลั่งไหลเข้าสู่บัญชีช่วยชาติอย่างต่อเนื่อง และ หลวงตาก็ได้รวบรวมส่งมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2541- 9 มกราคม 2553 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับมอบทองคำ 967 แท่งรวมน้ำหนัก 12,079.8 กิโลกรัม และ เงินบริจาคอีกจำนวนมหาศาล 

มะเร็งคร่าหนิง-ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล อดีตรองน.ส.ไทย

''หนิง'' ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล อดีตดารานักแสดง เจ้าของตำแหน่งรองอันดับสองนางสาวไทย ปี พ.ศ. 2528 เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งในสมอง หลังทนสู้อาการป่วยมากว่า 3 ปี

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเรื่องราวการเสียชีวิตขอ งอดีตนางงามราย นี้จากเพื่อนสนิทที่ชื่อ ''จิ๊ก'' เพื่อนร่วมรุ่น พ.ส.บ. (พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 1) ของอดีตนางงาม โดยนาง ''จิ๊ก'' เผยว่า ''หนิง-ศศิมาภรณ์'' มีอาการป่วยจากโรคมะเร็งไขสันหลังมากว่า 3 ปี โดยได้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศิริราช เป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต่อมาเมื่อช่วงต้นปี 53 อาการของอดีตนางงามก็ทรุดหนักลง เพราะเชื้อมะเร็งได้เคลื่อนจากไขสันหลังขึ้นไปอยู่ที ่สมอง จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีอาการปอดติดเชื้อแทรกซ้อน และลุกลามสู่กระแสเลือด จนเมื่อช่วงเช้า เวลา 09.30 น. หนิงมีอาการหัวใจหยุดเต้น แพทย์ต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ และสามารถฟื้นขึ้นมาได้ จนเมื่อเวลา 16.55 น. เพื่อนนางงามของตนก็ได้สิ้นลมอย่างสงบ หลังทนอาการของโรคไม่ไหว 

คุณจิ๊กยังได้กล่าวอีกว่า ขณะที่เพื่อนนางงามของตนกำลังจะหมดลมหายใจ ได้มีบุตรสาว ''น้องเดียร์'' ลลิดา ทองหล่อ และบุตรชาย ''น้องซามูไร'' ภูกริช รัตนะเดชนิธิศ มาร่วมอยู่ดูใจเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง อาทิ สมบัติ เมทะนี และภรรยา กาญจนา เมทะนี ก็มาร่วมดูใจเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน ตนในฐานะเพื่อนที่คอยดูแลกันมา ก็ขอให้ดวงวิญญาณของเพื่อนคนนี้ไปสู่สุคติ 

สำหรับพิธีรดน้ำศพ ''หนิง'' ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล จะมีขึ้นเวลา 17.00 น. ที่ศาลา 1 วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน 

''หนิง'' ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล อดีตเจ้าของตำแหน่งรองนางสาวไทยอันดับสอง ปี พ.ศ. 2528 หลังจากได้ตำแหน่งไม่นาน เธอก็ได้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดง มีผลงาน ละครหลายเรื่อง ละครเรื่องสุดท้ายที่แสดงคือ ''ฝนเหนือ'' ''หนิง'' ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล มีบุตรทั้งหมด 2 คน คือน้อง ''เดียร์'' ลลิดา ทองหล่อ บุตรสาวที่พลัดพรากกันตั้งแต่เธอมีอายุ 3 ขวบ ส่วนบุตรชายน้อง ''ซามูไร'' ภูกริช รัตนะเดชนิธิศ ''หนิง-ศศิมาภรณ์'' พบว่าตนเองมีอาการของมะเร็งไขสันหลังเมื่อปี 2550 ใช้เวลารักษาตัวกว่า 3 ปี แต่ไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของโรคได้ และได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อเวลา 16.55 น. ของวันที่ 30 ม.ค. 2554 


"เอ็ตต้า อู๋" ลูกสาวจากความไม่ตั้งใจของ "เฉินหลง"

“อู๋ฉีลี่” อดีตผู้ชนะในการประกวดมิสเอเซียประจำปี 1990 ได้ตัดสินใจเปิดปากพูดถึงชีวิตส่วนตัว และการเลี้ยงดู ลูกสาวซึ่งเป็น ทายาทของ “เฉินหลง” เป็นครั้งแรก โดยเด็กหญิงที่เกิดจากความสัมพันธ์ของเธอและซุปเปอร์สตาร์แอ็กชั่นคนดัง ขณะนี้มีอายุได้ 11 ปี แล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1999 กลายเป็นข่าวฮือฉาวในวงการบันเทิงจีน เมื่อ อู๋ฉีลี่ นักแสดงและอดีตมิสเอเซีย ประกาศว่าเธอได้ตั้งท้องโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน และพ่อของเด็กก็คือซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกงที่มีชื่อว่า เฉินหลง
โดยในวันที่ 19 ก.ย. ปีเดียวกันนั้นเอง อู๋ฉีลี่ ได้ให้กำเนิดทายาทเป็นลูกสาวที่เธอตั้งชื่อให้ว่า เอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน หลังจากนั้นสองแม่ลูกก็เดินทางไปใช้ชีวิตในประเทศจีน และไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชนมากนัก แต่ภาพถ่ายจากช่างภาพ และข่าวของทั้งสองที่พัวพันไปถึงเฉินหลง ก็ยังปรากฏในหน้าสื่อเป็นระยะ ๆ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
อู๋ฉีลี่ และลูกสาว “เอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน”
กระทั้งล่าสุดอดีตนางงาม วัย 38 ปีได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารรายสัปดาห์ หมิงเป้า ซึ่ง นับเป็นการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว และลูกสาว เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้เธอปฏิเสธไม่อยากจะพูดถึงเรื่องต่าง ๆ มาโดยตลอด
“ฉันไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไปค่ะ ตอนนี้ก็มีความสุขดีกับการเป็นแม่” อู๋ฉีลี่ กล่าว โดยเธอปฏิเสธที่จะให้ความเห็นจากคำถามของนักข่าว เกี่ยวกับความคล้ายคลึงของลูกสาวกับผู้เป็นพ่ออย่างเฉินหลง แต่พูดถึงอุปนิสัยของลูกคนนี้ว่า เป็นเด็กกระฉับกระเฉง, กระตือรือร้น, ซน และไม่เหนียมอายอะไรเหมือนกับเด็กสาวคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน … “แกเริ่มเล่น และพูดคุยกับผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุได้แค่ 2 ขวบแล้วล่ะค่ะ” ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อลูกเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ การเลี้ยงดูย่อมเริ่มเป็นสิ่งยากลำบากตามไปด้วย โดยเฉพาะในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอเปิดเผยว่า หนูน้อยเอ็ตต้า ต้องเผชิญคำถามจากเพื่อน ๆ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องพ่ออยู่เหมือนกัน เพื่อนร่วมชั้นบางคนถึงกับเรียกเธอว่าเป็น ‘ลูกไม่มีพ่อ’

อู๋ฉีลี่ และลูกสาว “เอ็ตต้า อู๋เจ่อหลิน”
โดยในตอนแรก อู๋ฉีลี่ ยอมรับว่าต้องพยายามตอบลูกแบบเลี่ยง ๆ เกี่ยวกับพ่อแท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งก็ถึงเวลาของการพูดความจริง … “ฉันพึ่งจะบอกความจริงเธอไปเองค่ะ ฉันยังเป็นเด็กในตอนนั้น ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากนัก และต้องการเอาชนะ จึงได้ตัดสินใจทำบางสิ่งลงไป เป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการให้ลูกดำเนินรอยตาม”
“เวลาลูกถามว่า ‘ทำไมหนูถึงไม่มีพ่อเหมือนคนอื่น’ ฉันพยายามจะบอกไปว่า ‘หนูก็มีอะไรมากมาย ที่คนอื่นไม่มีเหมือนกันนะลูก เพราะฉะนั้นอย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่นเลย’” โดย อู๋ฉีลี่ กล่าวว่าเธอทำงานหาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง และไม่เคยพยายามขอนัดเจอกับเฉินหลง อย่างที่เคยมีข่าวแต่อย่างใด
นอกจากนั้น อู๋ฉีลี่ ยังยืนกรานว่าไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดชังในตัวของพ่อ ที่ชื่อว่าเฉินหลงเลยแม้แต่น้อย “ฉันบอกกับเธอว่า ลูกสามารถมองเรื่องแบบนี้ได้จากทั้งสองด้าน มันอาจจะเป็นเรื่องผิดหรือถูก ลูกอาจจะไม่พอใจอะไรบ้าง แต่ไม่ควรจะเกลียดชังใคร”
อดีตมิสเอเชีย ปี 1990 อู๋ฉีลี่
และกับชีวิตในขณะนี้ อดีตนางงามคนสวยกล่าวว่าไม่ได้คิดถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ครั้งใหม่แต่ประการ ใด “ปล่อยทุกอย่างให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะค่ะ ฉันคงไม่รีบร้อนที่จะหาพ่อใหม่ให้กับเอ็ตต้าหรอก”
ที่ผ่านมามีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับลูกสาววัย 11 ปีของเฉินหลงคนนี้ เพราะตัวของผู้เป็นแม่เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเก็บเงียบ โดยมีรายงานว่าเฉินหลง เคยตกลงยินยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นเงินราว ๆ 350,000 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) ต่อเดือน และซื้อบ้านราคา 3 ล้านเหรียญฮ่องกง (11 ล้านบาท) ในเซียงไฮ้ให้
หลายคนกล่าวหาว่า ความสัมพันธ์กับเฉินหลงเมื่อ 11 ปีก่อน
ทำลายอาชีพในวงการบันเทิงของเธอ
อย่างไรก็ตามก็ยังมีข่าวลืออีกระแส ว่าพระเอกนักบู๊ขาดส่งค่าเลี้ยงดูให้ กับ อู๋ฉีลี่ จนสองแม่ลูกต้องเดินทางมารับงานในฮ่องกง และยังไม่มีการยืนยันว่าเฉินหลงได้เคยพบหน้าลูกสาวคนนี้แล้วหรือยัง โดยในตอนที่เกิดเรื่องขึ้นใหม่ ๆ ดาวบู๊คนดังออกมายอมรับผิดว่า “ผมทำเรื่องผิดพลาดลงไป เป็นความผิดแบบที่ผู้ชายหลาย ๆ คนเคยทำ … ผมยินดีรับผิดชอบ ถ้าเด็กเป็นลูกของผมครับ”

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน อู๋ฉีลี่ พึ่งกลับมารับงานในฮ่องกงอีกครั้ง

เฉินหลง และ เจซี ลูกชายคนโต

โรคไหนๆ ก็แพ้เกลือ/ มีดีมาฝาก

 

โรคไหนๆ ก็แพ้เกลือ 
เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้านกันทุกคน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง...

1. ไอเพราะเป็นหวัด
แค่เอาน้ำเปล่า 1 ถ้วย มาเหยาะเกลือลงไป 1 ช้อนชา คนเบาๆ จนกว่าเกลือจะละลาย แล้วใช้บ้วนปากกลั้วคอหลายๆ ครั้ง ความเค็มจะเข้าไปละลายเสมหะในลำคอ ทีนี้ก็ไม่ต้องไอให้คนข้างๆ รำคาญแล้ว

2. มึนหัว สมองไม่แล่น
สาวทำงานที่เจอแบบนี้อย่ารอช้า รีบรองน้ำอุ่นให้เต็มถัง หยอดเกลือลงไป 2-3 ช้อนชา แล้วเอามาอาบ รับรองว่าสมองจะโล่งคิดงานได้ปรู๊ดปร๊าด เพราะเกลือช่วยกระตุ้นให้เลือดลงไหลเวียนดี มีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง

3. เร่งให้อาเจียน
ถ้าบังเอิญกินสารพิษเข้าไป หรืออึดอัดอาหารไม่ย่อย จนต้องทำให้อาเจียนออกมา ให้ดื่มน้ำเกลือเข้มข้นแก้วใหญ่ๆ ไม่นานจะได้อาเจียนสมใจ

4. คัดจมูก
จะแค่คัดจมูกน้ำมูกไหล หรือลุกลามจนกลายเป็นโรคจมูกอักเสบก็ตาม ให้ใช้น้ำเกลือเจือจางหยอดเข้าไปในรูจมูกทั้งสองข้าง เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคในโพรงจมูก จะได้หยุดซี้ดซ้าดปาดน้ำมูกได้เสียที

5. คันตามผิวหนัง
ทาบริเวณที่คันด้วยน้ำเกลือ เชื้อราบริเวณนั้นจะสิ้นฤทธิ์

6. โรคตาแดง
โรคนี้มีเชื้อโรคเป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง แต่สามารถปฐมพยายาบาลตัวเองก่อนถึงมือหมอได้ง่ายๆ ด้วยการเอาผ้าขนหนูสะอาดๆ (ถ้าต้มฆ่าเชื้อโรคก่อนได้ยิ่งดี) จุ่มน้ำเกลือแล้วเอามาเช็ดตา อาจจะแสบบ้างแต่นั่นล่ะคือยาดี หลังจากที่เกลือเข้าไปฆ่าเชื้อโรคในตาแล้ว ก็ล้างตาหลายๆ ครั้งด้วยน้ำสะอาด อาการบวมแดงมีขี้ตาของคุณจะทุเลาลง

7. แผลยุงกัด
ถ้าใครถูกเจ้ายุงตัวร้ายมาขอบริจาคเลือดไป แถมยังทิ้งรอยแผลไว้เป็นที่ระลึก อย่ามัวแต่เกาให้เสียลุคส์สาวงาม รีบๆ ใช้น้ำเกลือทาที่รอยแผล ไม่นานความคันจะหายไป และรอยบวมก็จะยุบเร็วด้วย 

เกาะ ปูแดง ( เยอะ มาก ๆ จะโดนยึดเกาะไหมเนี่ย ;)







อย่างน้อยให้ได้เท่ายายนะ ข้อคิดดี ๆ จาก ยายยิ้ม

คงยากสำหรับคนสมัยนี้ที่จะทำให้ได้เท่ายาย คนเราตัดกิเลสไม่หมด หรอก แต่พยายามทำความดีไว้เถอะนะ เพื่อน ๆ มนุษย์ทั้งหลาย 
1

2

3


ยายยิ้ม หญิงร่างเล็ก หลังงุ้ม ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสมชื่อ อาศัยในบ้านไม้ที่เกือบเสร็จท่ามกลางป่าเขา จ.พิษณุโลก  อยู่ลำพังอย่างเดียวดาย ห่างไกลผู้คนและเงียบสงัด

เมื่อ 20 ปี ก่อน ยายมีบ้านอยู่ที่อำเภอพรหมพิราม พร้อมลูกหลาน ตอนนั้นลูกชายคนเล็กตั้งใจจะมาบุกเบิกทำมาหากินบริเวณที่อยู่ปัจจุบัน แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้ง ความไกล ไข้ป่า และความลำบาก ส่งผลให้ลูกชายของยายเลือกที่จะไปขับรถแท๊กซี่ใน กทม.

และไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ และการไม่อยากเป็นภาระลูกหลานหรืออื่นๆ ยายยิ้มจึงตัดสินครั้งสำคัญ อาศัยอยู่ที่บ้านในป่าผืนนั้น เป็นต้นมา

ลูกหลานขอร้องให้ยายกลับมาอยู่บ้านแต่ยายไม่กลับ ลูกหลานจึงได้แต่มาเยี่ยมยายเป็นระยะรวมถึงการนำเสื้อผ้าผ้าห่ม ข้าวสารอาหารแห้งมาให้ยาย ลูกชายคนที่ยังอยู่ในอำเภอพรหมพิรามบอกว่า "แม่เขาจะบอกว่าไม่ต้องเอามาให้มากนะ ในชีวิตเขา แม่เขาไม่เคยอยากได้อะไรเลย เคยถามเขาก็บอกว่า เขาพอแล้ว สมัยยังเด็กบ้านเราจนกันมาก พ่อก็ตายตอนที่เรายังเล็ก ๆ แต่แม่คนเดียวก็หา เลี้ยงลูกได้ มานึกดูแกต้องทำงานหนักมาก แม่ถึงเน้นสอนให้เข้มแข็ง หนักเอาเบาสู้ไม่เลือกงาน"

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางขุนเขา ยายไม่มีนาฬิกา แต่ทุกเวลาล้วนมีคุณค่า การมีชีวิตอยู่ของยายหมดไปกับการปลูกต้นไม้ ทำฝายเล็ก ๆ ที่ยายได้อาศัยในยามหน้าแล้งและยังเป็นสายธาร หล่อเลี้ยงบรรดาสัตว์และต้นไม้บนผืนแผ่นดินนี้ และตั้งใจถวายในหลวงและพระราชินี ยายรักในหลวงและพระราชินีมาก

กิจวัตรประจำวัน ตื่นแต่เช้า จุดธูปไหว้พระ เก็บมุ้ง กระย่องกระแย่งมาจุดฟืน หุงข้าว ตักข้าวสุกแรกเก็บไว้ ตักข้าวกินกับน้ำพริก หรือ ปลาแห้งที่เก็บไว้ ลงมากวาดลานบ้าน ซักผ้า หาบน้ำที่ลำห้วย ออกไปหาฟืนหาไม้ มาเก็บไว้ ก่อนจะคดข้าวใส่กล่อง น้ำพริก ใส่ย่าม สวมที่ขาดวิ่น ใช้พร้าแทนไม้เท้าเวลาเดินข้ามห้วย ข้ามหนอง เข้าไปในป่าลึก ผ่านฝายเล็กๆ หรือคันนาที่ยายทำไว้ 11 ฝาย เป็นคันดินที่ยายใช้ "จอบกับใจ" ค่อยๆขุดขึ้นมา กลายเป็นแอ่งน้ำเล็กๆกักเก็บน้ำ พอให้สัตว์เล็กได้มาอาศัย ต้นไม้ชุ่มชื่น ระหว่างนั้นก็เอาข้าวมาโปรยให้สัตว์ ในแอ่งดินกันทำคันดินนี้เสร็จ ก็เข้าไปลึกเรื่อยๆ ที่ละฝาย ทีละฝาย เวลาแต่ละวันผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ เหนื่อยก็พัก แล้วก็เดิน กลับบ้าน ชีวิตยาย เป็นไปอย่างเรียบง่าย

ทุก ๆ วันพระ ยายจะเดินลงมาจากเขา ด้วยระยะทางเกือบ 8 กิโล บวกกับวัยชราของยาย จึงทำให้ยายใช้เวลาใน การเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ศรัทธาของยายเสื่อมถอยลง ลำพังคนหนุ่มสาว จะให้เดินขึ้นลงเขา สัก 7-8 กิโลเมตร ยังเล่นเอาเหงื่อตก แต่สำหรับยายยิ้มถือเป็นกิจวัตสม่ำเสมอทุกวันโกน วันพระเพราะไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง ยายก็ต้องไปถึงวัดไม่เคยขาด

ระยะทางไกลที่เต็มไปด้วยหล่มโคลน ถนนเป็นร่อง ขรุขระ ยายยิ้ม จะออกเดินเท้าจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เหนื่อยก็พัก ถึงวัดกี่โมงไม่รู้ รู้แต่เมื่อถึงวัดก็เปลี่ยนชุดชาว สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ทำความสะอาดวัด ทำบุญ เมื่อกลับจากวัด แกก็จะมานับวันหลังจากนั้นไปถึงวันโกนวันพระอีกที ก่อนที่เดินกลับบ้านในป่า ยายเลือกใช้ชีวิตเพียงลำพัง และใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอย่างมีความสุขอีกครั้ง

เราขาดในสิ่งที่ยายยิ้มมี นั่นคือ ความพอเพียง ความศรัทธา ความไม่โลภ เรามีในสิ่งที่ยายขาด นั่นคือ ความทุกข์

พิธีกร : ข้าวสารอาหารแห้งเอามาจากไหน
ยายยิ้ม : ลูกหลานเข้าเอามาให้ เขาเอามาให้ก็ต้องกิน เขาจะได้บุญและก็ต้องกินอย่างประหยัดๆ ไม่ฟุ่มเฟือย

พิธีกร : ฝนตกเปียกไหม
ยายยิ้ม : ก็หลบๆเอา ไม่ลำบาก อย่าคิดว่ามันลำบาก

พิธีกร : เสื้อผ้า ขาดแล้วยังใส่อยู่
ยายยิ้ม : ลูกหลานเข้าเอามาให้ ใส่ไว้เขาจะได้บุญ

พิธีกร : ลูกหลานอยากให้ไปอยู่ด้วยกัน
ยายยิ้ม : ไม่ใช่ว่าจะไม่พึ่ง แต่ให้หมดค่าก่อนค่อยพึ่ง ป่วยไม่สบายไม่มีแรงค่อยพึ่งเขา

พิธีกร : ทำฝายไปให้ใคร
ยายยิ้ม : ให้ในหลวงพระราชินี ท่านเป็นถึงเจ้าแผ่นดินยังทำงาน เราก็ต้องทำให้ท่านบ้าง..ส่วนสิ่งที่ทำในหลวงไม่เห็น ผีสางเทวดาก็เห็น

พิธีกร : ได้ประโยชน์อะไรจากฝาย
ยายยิ้ม : ในหลวงบอกมีฝายมีน้ำ มีป่า มีปลาเล็กเป็นอาหารนกอีกทีรวมถึงได้ใช้ยามหน้าแล้ง

พิธีกร : กลัวล้มไหมเวลาเดินไปไหน
ยายยิ้ม : กลัวแต่ก็ต้องทำ ทำแล้วมีความสุข

พิธีกร : เหนื่อยไหมที่ทำมา
ยายยิ้ม : เหนื่อย แต่ทำแล้วมีความสุข

พิธีกร : เดินไปวัดลำบาก เหนื่อยไหม
ยายยิ้ม : เหนื่อยก็พัก แล้วเดินต่อ ทางไปสวรรค์มันรก ทางไปนรกมันเรียบ เห็นพระก็หายเหนื่อย

พิธีกร : สรุปว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ
ยายยิ้ม : คนอื่นว่าลำบากแต่ถ้าเราคิดว่ามันเป็นสวรรค์มันก็ไม่ลำบาก

พิธีกร : ยายมาทำบุญทุกวันพระไหม
ชาวบ้าน : ยายมาประจำแหละ ยายแกชอบทำบุญ ได้เบี้ยเดือน 500 แกยังทำบุญหมดเลย

พระ (กางมุ้งให้ยายนอนในศาลาวัด) : ไม่บาปหรอกยาย ช่วยๆกัน ดูแลกัน
ยาย (นั่งยิ้มด้วยความจำนน)
ยาย เอาเงินที่เก็บๆรวมถึงเงินที่ชาวบ้านให้ไว้มาทำบุญ
ยาย อวยพรให้และภาวนาให้คนที่ทำบุญด้วย
พิธีกร : ยายรู้จักเขาเหรอ
ยายยิ้ม : (ยิ้ม) ไม่รู้จักหรอก เห็นบอกว่าจะบวชก็เลยทำบุญ ให้ยายทำบุญนะ (สงสัยคงจะเป็นเงินที่ทางรายการให้)
พิธีกร : ทำเถอะยาย ไม่ว่าอะไรหรอก

พิธีกร : ยายมีของแค่นี้เหรอ (หยิบกระเป๋าใบเล็กที่บรรจุเสื้อผ้า หยูกยาที่จำเป็น บัตรประชาชน)
ยายยิ้ม : แค่นี้แหละเตรียมไว้ เวลาเจ็บป่วยขึ้นมา เอาไปใบเดียว คนอื่นจะได้ไม่ลำบากหา

พิธีกร : จะไม่เป็นการแช่งตัวเองหรือ
ยายยิ้ม : ยิ่งเจ็บ ยิ่งต้องพึ่งตัวเอง ยิ่งต้องเตรียมตัว

พิธีกร : เวลายายไปตัดไม้ไผ่ ทำฝายไม่เกินกำลังเหรอ เอาแรงมาจากไหน
ยายยิ้ม : หัวเราะเบาๆแล้วตอบว่า มันเกินกำลังอยู่แล้วล่ะ แต่ต้องมีความพยายามยายบอกวันนี้หมดแรง นอนพัก พรุ่งนี้แรงก็มาใหม่

พิธีกร : ยายยังขาดอะไรอีกในชีวิต
ยายยิ้ม : ยายยิ้มสมกับชื่อ แล้วตอบอย่างภาคภูมิใจว่า ขาดความทุกข์

Au Dating Plus Game เกมส์ไอเดียเจ๋ง ลองเล่นดู ( นางเอกน่ารักมาก ๆ จีบให้สำเร็จนะ ;)



แนะนำผลงานที่เด็ก abac ทำส่งอาจารย์ครับ

เป็นเกมส์จีบสาว ที่สามารถใน youtubeได้
ฉากจบมีหลายแบบแตกต่างกันไป ลองเล่นๆกันดูนะครับ
วิธีเล่น: ดูตามเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ พอจบคลิปแต่ละคลิป ก็จะมีทางเลือกให้เลือกว่าจะทำอย่างไรต่อไปในการจีบสาวของคุณ 

FACEBOOK OFFICE



































ติดตาม เรื่องแปลก ใหม่ ตลก สนุก เซ็กซี่ sexy น่าสนใจอื่น ๆ หรือแวะมาทักทายกัน ได้ที่
www.facebook.com/somphon http://gplus.to/somphon www.twitter.com/samaphon www.facebook.com/somphon.me http://samaphon.blogspot.com/

          ขอขอบคุณที่มา : email