เรื่องแปลก ใหม่ น่าสนใจ ข่าวสาร บันเทิง สนุก เซ็กซี่ sexy ที่คุณ อยากรู้ ที่นี่ครับ ^^

SAMAZshop

Translate

ประวัติของ converse รองเท้าที่ครองใจวัยรุ่นทั่วโลก ชื่อนี้ใครไม่รู้จัก


Converse นั้นเป็นบริษัทผลิตรองเท้าที่กำเนิดในสหรัฐอเมริกา โดยทางบริษัทConverse Rubber Corporation ได้เริ่มเปิดกิจการตั้งแต่เมื่อปี 1980 ซึ่งผู้ก่อตั้งคนแรกก็คือ มาร์ควิส เอ็ม คอนเวอร์ส โดยร้านแห่งแรกที่เมืองมัลเดน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ 


Chuck Taylor's
   
       ร้านแห่งนี้โด่งดังขึ้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1917 เมื่อ มีการทำรองเท้าผ้าใบรุ่น "All-Star" ออกสู่ตลาด ในปีถัดมา ชาร์ลส์ เอช “ชัค” เท ย์เลอร์ บุคคลผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัทแห่งนี้ได้เข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งตัวชัคนั้นเป็นนักบาสเก็ตบอลซึ่งเห็นว่า รองเท้าคอนเวอร์สนั้นจะต้องได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการนักบาสเก็ต บอล  โดยระหว่างเดินทางไปแข่งขันบาสเก็ตบอลทั่วทั้งสหรัฐฯ ชัคจะแนะนำรองเท้าคอนเวิร์ส์ไปด้วย ทำให้คอนเวอร์สกลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่นักบาสเก็ตบอลและ วัยรุ่นอเมริกัน ด้วยเหตุนี้ ในปี 1923 ทางคอนเวอร์สจึงนำชื่อ Chuck Taylor's ไปปรากฏร่วมกับโลโก้ของตนที่ติดอยู่บริเวณส่วนที่หุ้มข้อเท้า ทำให้ผู้คนมักเรียกรองเท้านี้ว่า “ชัคส์”  
รอง เท้าชัคส์นั้นมีแต่สีดำและสีขาว แต่เมื่อทีมบาสเก็ตบอลต่างๆต้องการที่จะให้รองเท้ามีสีอื่นๆด้วย  ทำให้ เมื่อปี 1966 คอนเวอร์สต้องผลิตรองเท้าสีอื่นๆ  นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุ อื่นๆในการทำรองเท้าด้วย เช่น หนัง หนังกลับ ไวนีล ป่าน  แทนที่จะเป็นผ้าใบอย่างเดียว

ช่วงทศวรรษที่ 1970 และต้น 1980 นั้น คอนเวอร์สได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 และ 1990 ปรากฏ ว่ามีคู่แข่งหน้าใหม่ เช่น ไนกี้ เข้ามาช่วงชิงลูกค้า ทำให้คอนเวอร์สไม่ได้เป็นรองเท้าแห่งวงการเอ็นบีเออีกต่อไป จากเหตุผลนี้บวกกับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาดอีกหลายครั้งทำให้คอน เวอร์สต้องเผชิญภาวะล้มละลาย เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2001 และ ในปีนั้นเองที่โรงงานแห่งสุดท้ายในสหรัฐฯได้ถูกปิดลงไปพร้อมกัน ซึ่งปัจจุบันรองเท้าคอนเวอร์สจะถูกผลิตจากประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย เช่น จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม
     
      ปัจจุบันนี้ รองเท้าคอนเวอร์สยังเป็นที่นิยมในหมู่นักดนตรีและวัยรุ่นทั่วโลก

วิธีการดู บาง คนบอกว่าจะมีตรา Converse อยู่ที่ด้านหลังรองเท้าและพื้นรองเท้า แต่ถึงยังไง รองเท้าConverse ก็ยังเป็นที่นิยมสวมใส่กันอย่างแพร่หลาย

ส่วนประเทศที่ผลิตก็จะมีอยู่หลายประเทศเช่นกัน แต่ที่นำมาซื้อขายในบ้านเราก็เห็นจะเป็น Made in China ซึ่งมีมากมายหลายรุ่นเช่นกัน และที่เห็นต่อมาก็คงเป็น Made in USA. แต่เห็นว่ากันว่าของจากอเมริกาจะมีรูปทรงที่สวยกว่าและทนทานกว่า
ส่วน การรักษาทำความสะอาดนั้นก็แล้วแต่บุคคล บางคนอาจชอบให้รองเท้าสะอาดอยู่เสมอก็จะซักบ่อยหน่อยและก็สามารถขจัดกลิ่นใน รองเท้าได้ด้วย แต่ส่วนตัวผู้เขียนนี้ไม่ค่อยชอบที่จะทำความสะอาดสักเท่าไร ชอบใส่ออกแนวเซอร์ๆมากกว่า ดูแล้วมีมนต์ขลังดี สำหรับผู้ที่สนใจรองเท้า converse ก็สามารถไปดูตาม shop ต่างๆได้มีอยู่หลายที่ 

 





ตัวจริง และมองมุมน่ารัก ๆ ของน้อง จ๊ะ คันหู




 

          หลายคนอาจจะรู้จัก "จ๊ะ คันหู" ในภาพของสาวน้อยที่มือถือไมค์ขึ้นไปโยกย้ายส่ายเอวบนเวทีตามงานโชว์ตัว พร้อมกับเพลงสุดฮิตและท่าสุดสยิวอย่าง "คันหู" แน่นอนว่า มีหลายเสียงต่อว่าต่อขานเธอที่ทำอะไรเกินงามกุลสตรีไทย แต่ก็ยังมีหลายเสียงเห็นอกเห็นใจและเข้าใจว่าภาพลักษณ์ที่เห็นนั้นเป็นเพียงแค่ "งาน" มิใช่ตัวตนที่แท้จริงของ "จ๊ะ คันหู"

          แล้วตัวตนที่แท้จริงของ "จ๊ะ คันหู" เป็นอย่างไรล่ะ อาจเป็นคำถามที่หลายคนถามกลับมา ซึ่งสาวได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ ก็ขอรับอาสาไปล้วงลึกตัวจริงของสาว "จ๊ะ คันหู" คนนี้ผ่านรายการ "สุขขา..อยู่หนได๋" ซึ่งออนแอร์เป็นเทปแรกทาง Pop Channel รับรองว่างานนี้มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาค่ะ

          จ๊ะ คันหู เด็กสาวฟันเหล็กวัย 20 ปี เดินเข้ามาทักทายสาวได๋ด้วยน้ำเสียงเหน่อ ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ก่อนจะให้ช่างแต่งหน้าทำผมเนรมิตให้สวยใส พร้อมกับเปิดโอกาสให้สาวได๋ได้ซักถามพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

          "ตอนนี้คิดว่าดังหรือยัง?" สาวได๋ยิงคำถามแรก ให้น้องจ๊ะสวนตอบกลับมาอย่างไม่ต้องคิด "เฉย ๆ" ก่อนจะเสริมต่อว่า "ตอนนี้ค่าตัวก็ขึ้นบ้าง ตอนแรกได้ 800 แต่ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,500 ต่อเพลง ตังค์เก็บก็มี แต่ยังไม่เยอะ หนูร้องเพลงมา 9 ปี ตอนนี้ก็เก็บเงินได้ราว ๆ 2 แสนบาทแล้ว"

          น้องจ๊ะ บอกว่า เธอร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เพราะพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นลิเกหมด เด็ก ๆ เธอก็ได้ไปเล่นลิเกด้วย แต่ถ้าถามว่าขึ้นเวทีครั้งแรกเมื่อไหร่ ก็ต้องย้อนไปถึงสมัยอนุบาลเลยทีเดียว

          เมื่อได้ยินว่า น้องจ๊ะ คันหู มีพรสวรรค์การร้องเพลงตั้งแต่เล็ก ๆ ดังนั้น สาวได๋ก็เลยรีบบอกภารกิจที่น้องจ๊ะต้องมาทำวันนี้ ก็คือ การร้องเพลง "คันหู" ในเวอร์ชั่นแจ๊ส ทำเอาสาวจ๊ะ คันหู ถึงกับอึ้ง และบอกอย่างซื่อ ๆ ด้วยสีหน้าหนักใจว่า "เพลงแจ๊สเป็นยังไง โหย...หนูร้องไม่ได้หรอก ไม่เคยร้อง เคยแต่ร้องลูกทุ่ง" พร้อมกับหันไปถาม "พี่ไผ่" หัวหน้าวงเทอร์โบว่า "พูดจริงเปล่าเนี่ย ทำไมไม่บอกหนูก่อน หนูจะกลับแล้วนะ" (ฮา)

          แต่ครั้นจะปล่อยให้ "จ๊ะ" ร้องเพลงแจ๊สโดยที่ไม่มีพื้นมาก่อนก็ดูจะใจร้ายเกินไป สาวได๋เลยส่งชายหนุ่มคนหนึ่งมาเป็นผู้ช่วยสอน "จ๊ะ" ร้อง "แจ๊ส" แต่ดูท่าว่า "จ๊ะ" ก็ยังไม่มั่นใจ และไม่เชื่อว่าตัวเองจะร้องได้ สาวได๋ก็เลยงัดไม้เด็ดประกาศว่า "ถ้ายอมร้องเพลง จะให้ชุดสวย ๆ ไปใส่ 1 ชุด แต่ถ้าร้องเพราะก็จะให้อีกหลายชุด"



 

          ได้ยินแบบนี้แล้ว ตาของสาวจ๊ะเป็นประกายขึ้นมา พร้อมกับรีบตกปากรับคำทันที (อิอิ) ก่อนจะยอมแต่งตัวสวยนั่งท้ายรถกระบะโล่ง ๆ ไปห้องซ้อมดนตรีกับสาวได๋ แถมยังมีแอบกระซิบด้วยว่า "อายนะเนี่ย"

          แต่เห็นน้องจ๊ะอายแบบนี้ สาวได๋ก็ยิ่งได้ทีแกล้งใหญ่ ด้วยการประกาศดัง ๆ กลางถนนขณะที่รถกระบะวิ่งผ่านว่า "นี่จ๊ะ เทอร์โบค่ะ จ๊ะ คันหู น้องคันหูนั่งอยู่นี่ รู้จักไหม นี่ดารามาดูเร้วววว" ทำเอาสาวจ๊ะเขินสุด ๆ รีบบอกสาวได๋ว่า "พี่....ไปบอกเขาทำไมล่ะ ตลกและ...." ก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อนความเขินและปฏิเสธไปตลอดทางว่า "ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ" อิอิ

 

          เมื่อมาถึงห้องซ้อมดนตรี สาวได๋ก็ชวนน้องจ๊ะคุยระหว่างกินข้าว โดย "จ๊ะ" ยอมรับว่าช่วงนี้งานหนัก และเลือกรับงานไม่ค่อยได้ เพราะถ้าเธอไม่ไป คนอื่น ๆ ในวงก็ไปกันไม่ได้ถ้าขาดเธอ

          "อยากดังไหม" สาวได๋ถาม "ก็อยาก ถ้าดังแล้วก็คงจะซื้อรถ เพราะมีตังค์แล้วใช่ไหม จะไปซื้อรถ ซื้อบ้าน เลี้ยงพ่อแม่ ให้พ่อแม่สบาย ๆ แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงิน ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงเรียกว่ารวย ตอนนี้ก็มีคนมาขอลายเซ็น แต่ก็เซ็นไม่เป็นอ่ะ" จ๊ะ บอกอย่างซื่อ ๆ

 

 


          ทานข้าวเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาที่ "จ๊ะ" จะจับไมค์มาหัดร้องเพลงอีกครั้ง โดยมีคุณครูสอนร้องเพลง และนักดนตรีคอยช่วยเหลือ แรก ๆ สีหน้าของ "จ๊ะ" ดูยังไม่ค่อยมั่นใจ และฉงนกับทำนองดนตรีแบบใหม่แบบแจ๊สที่ไม่คุ้นหู แต่เธอก็พยายามตั้งใจฟัง และจับจังหวะ จนในที่สุด "จ๊ะ" ก็ร้องเพลง "คันหู" ในเวอร์ชั่นแจ๊สออกมาได้ไม่เลวเลยทีเดียว ก่อนจะชู 5 นิ้วบอกสาวได๋ ทำนองว่า ขอเสื้อ 5 ชุดนะพี่ได๋ 555

          และเมื่อสาวจ๊ะทำผลงานได้ดี สาวได๋ก็เลยตกรางวัลให้ด้วยการพา "จ๊ะ" ไปรักษาสิวตามคำขอ พร้อมกับมอบชุดสวย ๆ ให้ถึง 4 ชุดตามสัญญา ทำเอาสาวจ๊ะซึ้งใจจนน้ำตารื้น ถึงกับเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ทำไมพี่ดีกับหนูจัง ไม่เคยมีใครดีกับหนูอย่างนี้เลย หนูไม่เคยมีแบบนี้..."

 

          สุดท้าย สาวมหาวิทยาลัยปี 2 อย่างน้องจ๊ะ เทอร์โบ ยอมรับว่า ชีวิต ณ วันนี้ของเธอเมื่อเทียบกับปีที่แล้วแตกต่างกันมาก เพราะตอนนี้มีคนรู้จักเธอมากขึ้น รายได้ก็ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ถึงกระนั้นเธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองดัง หรือเป็นดาราอะไร พร้อมกับเข้าใจดีที่หลายคนมองเธอในแง่ลบ แต่เธอก็อยากบอกทุกคนว่า สิ่งที่เธอทำเป็นแค่การแสดง ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง และอยากให้คนมาเรียนรู้ มารู้จักเธอก่อนว่าเธอเป็นคนอย่างไรค่อยตัดสิน เพราะภาพบนเวทีกับภาพข้างล่างเวทีมันไม่เหมือนกัน...



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สุขขาอยู่หนได๋ , youtube.com โพสต์โดย LiveScoreReport 
ติดตาม เรื่องแปลก ใหม่ ตลก สนุก เซ็กซี่ sexy น่าสนใจอื่น ๆ หรือแวะมาทักทายกัน ได้ที่
www.facebook.com/somphon http://gplus.to/somphon www.twitter.com/samaphon www.facebook.com/somphon.me http://samaphon.blogspot.com/

          ขอขอบคุณที่มา : email