หากคุณ เคยท้อแท้ สิ้นหวัง ดูเค้าคนนี้ซิ นิค วูจิซิค ยอดนักสู้ชีวิต

เชิญรับชมคลิป จากด่านล่าง



หวัง ว่า คงเป็นกำลังใจให้ ได้ไม่น้อยครับ ^^

สัญญาณอันตรายวันสิ้นโลก? สัตว์ตายปริศนา พร้อมกันหลายพื้นที่ทั่วโลก

นกตายเกลื่อนบนถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ในสวีเดน


สัตว์น้ำตายที่โบลิเวีย


นกตายในสวีเดน

นกแบล็กเบิร์ดปีกแดงในเคนตั๊กกี้

ที่มา กระปุกดอทคอม

         กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก สำหรับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อหลายพื้นที่บนโลกได้เผชิญกับภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิด ขึ้นมาก่อน เผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อีกทั้งยังมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกมากมาย จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามที่ว่า สิ่งเหล่านี้คล้ายกับจะเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าโลกกำลังมาถึงจุดเปลี่ยน อย่างเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ หรือเปล่า

          และล่าสุด เหตุการณ์แปลกประหลาดซึ่งได้กลายเป็นปริศนาของคนทั่วโลกไปอีกหนึ่งประเด็นในขณะนี้ ก็คือ เหตุการณ์สัตว์ในหลายพื้นที่ตายอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เริ่ม จากที่มลรัฐอาร์คันซอส์ สหรัฐฯ มีนกแบล็กเบิร์ดกว่า 5,000 ตัวตกลงมาตายเกลื่อนถนน ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ขณะที่ปลาดรัมฟิชกว่า 100,000 ตัว ก็ตายเกลื่อนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ในช่วงเวลาเดียวกัน สร้างความฉงนสงสัยให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก เพราะมีเพียงนกแบล็กเบิร์ดกับปลาดรัมฟิชเท่านั้นที่ตาย ส่วนปลาและนกชนิดอื่นไม่ได้มีรายงานแต่อย่างใด ขณะที่ในเคนตั๊กกี้ ก็มีนกตายให้เห็นประปราย โดยได้รับการเปิดเผยจากหญิงสาวคนหนึ่งว่า มีนกตกลงมาตายบริเวณบ้านของเธอ 10 กว่าตัวเลยทีเดียว และที่หลุยเซียน่า นกแบล็กเบิร์ดปีกแดง นกสตาร์ลิ่ง และนกกระจอก รวมแล้วกว่า 5,000 ตัว ก็ตกลงมาตายเกลื่อนในช่วงปีใหม่ และนอกจากนี้รัฐอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ก็มีนกและปลาตายเช่นกัน ได้แก่ อิลลินอยส์ เทนเนสซี มิสซิสสิปปี้ แมร์รี่แลนด์ และมิสซูรี

นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา


นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา


นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา

ซากศพนกที่ตายในอาร์คันซอส์

          ส่วนในประเทศอื่น ๆ ในแถบยุโรปก็ไม่ต่างกัน โดยในประเทศอิตาลีได้มีนกพิราบตกมาตายหลายพันตัว และทางตอนใต้ของสวีเดนที่กำลังเผชิญกับอากาศหนาวเย็น ก็มีนกตกลงมาตายบนกองหิมะอีกหลายร้อยตัว ขณะที่ในประเทศบราซิล ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ก็มีปลาซาร์ดีน ปลาโคร๊กเกอร์ และปลาดุก รวมกว่า 100 ตันตายอยู่ในทะเลอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยมีการสันนิษฐานว่าอาจเป็น เพราะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมในทะเลก็เป็นได้ ส่วนที่นิวซีแลนด์ ปลากะพงหลายร้อยตัวลอยแพกันมาตายเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาดเพนนินซูลา สร้างความตกอกตกใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวไม่น้อย

          นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีสัตว์ตายเกลื่อนมาตั้งแต่ช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ เช่น ใน เวียดนาม ได้มีปลาหลายพันตัวลอยแพขึ้นเหนือน้ำ สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้าน และพวกเขาไม่สามารถจับปลาสดไปขายได้อีก และก่อนหน้านั้น เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ก็มีจระเข้ เต่า ปลาโลมา และสัตว์น้ำอีกหลายชนิดลอยตายเกลื่อนในทะเลสาบและแม่น้ำในประเทศโบลิเวีย  

ปลาตายในเวียดนาม เมื่อกลางปี 2553

          อย่างไรก็ตาม การตายของสัตว์ต่าง ๆ ยังอยู่ระหว่างการชันสูตรเพื่อค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ซึ่งก็ยังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่ในช่วงนี้ก็มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับสาเหตุการตายของสัตว์เหล่านี้มากมาย บ้างก็ว่าเป็นเพราะนกตกใจเสียงพลุและแสงสีช่วงปีใหม่ บ้างก็ว่าเกิดจากมลพิษในอากาศและน้ำ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ตั้งคำถามขึ้นมาอีกว่า ถ้าหากเป็นเพราะ เสียงพลุและแสงสีจากเทศกาลปีใหม่จริง เหตุใดจึงเพิ่งเกิดเหตุการณ์นกตกลงมาตายเกลื่อนในปีนี้ เมื่อเทศกาลปีใหม่ก็จัดในรูปแบบเดียวกันกับทุกปี และถ้าหากเกิดจากมลพิษในอากาศและน้ำ เหตุใดในอีกหลายพื้นที่ที่มีมลพิษมากกว่าจึงไม่เผชิญกับปัญหาเดียวกัน  

ปลาตายริมฝั่งแม่น้ำในนิวซีแลนด์


ปลาดรัมฟิชในอาร์คันซอส์

          สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ ที่เป็นข้อสันนิษฐานที่ยังไม่มีคำถามใด ๆ ตามมา นั่นก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลก ที่กำลังกลับขั้วสลับตำแหน่งกัน ซึ่งการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกนั้น จะส่งผลให้ความเข้มข้นของแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง จนทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ดังนี้ 

           1. ภัยพิบัติบนผิวโลก เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม สึนามิ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก และเกิดภัยธรรมชาติอีกมากมาย เนื่องจากการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะทำให้ทุกสิ่งบนโลกเปลี่ยนทิศทาง เช่น กระแสน้ำ กระแสลม 

          2. เมื่อสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง การแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ก็เพิ่มปริมาณมากขึ้นถึงระดับ อันตราย ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนสิ่งมีชีวิตบางประเภทปรับตัวไม่ทัน และเกิดพายุสุริยะ 

          3. ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างบนโลกจะทำงานผิดปกติ 

          4. ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสัตว์อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงมนุษย์ด้วย ทำให้สัตว์หลายชนิดอ่อนแอและล้มตายดังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ 

           5. เมื่อสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง แรงดึงดูดของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป วัตถุต่าง ๆ ในห้วงอวกาศจะเคลื่อนที่เข้ามาสู่ผิวโลกได้ง่ายขึ้น 

          ทั้งนี้ แม้จะไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า การตายปริศนาของสัตว์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจากการที่สนามแม่เหล็กโลกกลับขั้ว แต่หากพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็จะพบว่ามีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับมนุษย์อย่างมากมาย อีกทั้งโลกก็ยังมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุกวันและเกิดพายุสุริยะในบางพื้นที่ ดังนั้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าการตายของสัตว์ที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่แสดงให้เห็นว่า โลกใบนี้กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และกำลัง "เริ่มต้น" นับถอยหลังสู่จุดหายนะที่เรียกว่ายุคโลกาวินาศอีกครั้งตามวัฏจักรของโลก หลังจากที่มันเคยเกิดขึ้นและทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สาบสูญไปมาแล้วเมื่อ หลายล้านปีก่อน 

คลิป นาที ชีวิต ระเบิดสนามบิน Moscow

บุหรี่อีเล็กทรอนิกส์ บุหรี่ไฟฟ้า...สิงห์อมควันต้องอ่าน อันตรายนะ

 

บุหรี่อีเล็กทรอนิกส์ บุหรี่ไฟฟ้า

ถ้าย้อนไปสัก 20-30 ปีที่แล้ว คนทั่วไปจะเห็นโฆษณาตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะนิตยสารต่างประเทศ มีบุหรี่หลากหลายยี่ห้อ
รูปภาพสวยงามเห็นแล้วน่าสูบเป็นอย่างยิ่ง เรียกว่าใครก็ตามที่ได้เห็น แม้จะพอรู้ถึงโทษภัยของบุหรี่มาบ้าง แต่หากไม่ได้รับคำแนะนำ
หรือขาดวุฒิภาวะ ก็จะหลงไหลและอยากลอง โดยไม่รู้เลยว่าภาพสวยงามที่เห็นนั้น เบื้องหลังมันเลวร้ายกว่าที่คิด
(ผมไม่พูดถึงเรื่องค่านิยมสมัยนั้น ที่คนสูบบุหรี่จะดูเท่ห์ สูบแล้วเท่ากับโตเป็นผู้ใหญ่ ฯลฯ)

แล้วอะไรที่ทำให้คนอยากเลิกสูบบุหรี่? เพราะบุหรี่มันเต็มไปด้วยสารพิษจากใบยาสูบครับ คนที่สูบบุหรี่สักระยะจะเริ่มรู้ตัวเอง
หายใจก็ลำบาก แค่เดินหรือวิ่งก็เหนื่อยง่าย ไอทั้งวัน ปากก็เหม็น ตัวก็เหม็น บ้านก็สกปรก ฯลฯ เสียเงินเสียทองแบบไม่รู้จบอีกต่างหาก
โดยไม่มีอะไรดีขึ้น

แล้วทำไมถึงเลิกไม่ได้หรือเลิกยากเลิกเย็นเหลือเกิน? ก็เพราะบุหรี่มันมีสารเสพติดที่ชื่อว่า "นิโคติน" ครับ นิโคตินเป็นสารเสพติด
ที่แม้จะอันตรายไม่เท่าเฮโรอีนแต่ก็ถือว่ามีฤทธิ์เสพติดพอกัน เรียกว่าติดเฮโรอีนง่ายแค่ไหน บุหรี่ก็ติดง่ายเท่านั้น รวมไปถึงเลิกเฮโรอีนยากแค่ไหน
เลิกบุหรี่ก็ยากใกล้เคียงกันประมาณนั้น  ก็รู้อย่างนี้แล้วจะยังไปสูบบุหรี่ทำไม? ผมเชื่อว่าคนที่เริ่มสูบบุหรี่ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจนิโคตินครับ
ไม่ได้นึกถึงเลยด้วยซ้ำ สนใจแต่ควันขาวๆ ที่เกิดจากการเผาใบยาสูบ สูบเข้าปอด พ่นออกมา

ทั้งหมดทั้งปวง มาจากสิ่งเดียวที่คนที่สูบบุหรี่มองข้าม นั่นก็คือ "นิโคติน" ครับ

มาถึงบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ ครับ น้องๆ เพื่อนๆ คงได้ทราบมาบ้างนะครับว่า เหตุผลที่บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงเพราะบุหรี่ไฟฟ้า
ไม่มีส่วนประกอบของใบยาสูบที่ก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ มากมาย รวมทั้งมะเร็งปอดและถุงลมโป่งพอง แต่จะต้องไม่ลืมว่า มันยังคงมี "นิโคติน" อยู่ครับ

บุหรี่จริงและบุหรี่ไฟฟ้า มีนิโคตินแบบเดียวกัน (เพราะนิโคตินของบุหรี่ไฟฟ้าก็สกัดมาจากใบยาสูบในบุหรี่จริง) แต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีสารก่อมะเร็ง
และสารพิษอีกมากกว่า 4,000 ชนิด ดังนั้น หวังว่าคงไม่มีใครที่กลัวนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเลือกจะไปสูบบุหรี่จริงแทนนะครับ
กลัวนิโคตินถูกต้องแล้วครับ อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยว ผมกล้ารับประกันว่ามันไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นครับ

นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีวัยรุ่นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนำบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบ
 โดยสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตในราคามวนละ 2,500 บาท ว่า บุหรี่ไฟฟ้า หรือ อี ซิกาแร็ต (E cigarette) เป็นสินค้าเลียนแบบบุหรี่ที่ผู้จำหน่ายโฆษณาว่า
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเลิกสูบบุหรี่   แต่พบว่าปริมาณนิโคติน (Nicotine) สูงกว่าบุหรี่ทั่วไปหลายเท่า นับเป็นภัยตัวใหม่ สูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ 1 มวน
จะเท่ากับบุหรี่ทั่วไปถึง 15 มวน แม้ว่าตัวน้ำยานิโคตินจะมีการปรุงแต่งกลิ่นให้หอม เช่น กลิ่นช็อกโกแลต กลิ่นผลไม้รวม ก็ตาม แต่พิษภัยยังคงมีเหมือนเดิม
หากนำไปใช้โดยปราศจากการดูแลของแพทย์ จะเป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดได้ 

หลายประเทศได้สั่งห้ามการใช้สินค้านี้แล้ว เช่น รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย บราซิล อิสราเอล จอร์แดน และตุรกี เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้า
ดังกล่าวยังไม่มีผลการวิจัยรองรับว่าช่วยเลิกบุหรี่ได้จริง  ขณะนี้ สธ.ได้มีมาตรการห้ามนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศ
โดยใช้กฎหมายบังคับตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469
ซึ่งมีโทษหนักทั้งปรับและจำคุก

ดอกแคผัดหมูกรอบ ทั้งคุณค่า และ วิธีการทำ

เจอภาพและวิธีทำ ดอกแคผัดหมูกรอบ 
ในนิตยสาร กูรเมท์ แอนด์ ควีซีน 
จึงแอบหยิบมาฝากเพื่อนๆ 

... (ภาพจาก internet)

ดอกแคเป็นดอกไม้ที่กินแล้วสบายใจ เพราะปลูกง่าย พบเห็นใกล้บ้านทั่วไป จึงมั่นใจได้ว่าไม่ผ่านการฉีดยาฆ่าแมลง มีรสขมนิดๆ เข้าตำรา "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" ดอกแค 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงานต่อร่างกาย 10 กิโลแคลอรี มีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินซี การรับประทานดอกแคจะทำให้ร่างกายได้เส้นใยอาหาร สรรพคุณทางยาของแคคือช่วยดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ฤดูหนาวนี้เราเป็นหวัดเป็นไข้กันง่าย ดอกแคจึงน่าสนใจที่นำมาเป็นเมนูในบ้าน

ดอกแคผัดหมูกรอบ 

ดอกแคผัดหมูกรอบ 

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) 

- ดอกแค ประมาณ 4 ถ้วย ใช้มีดกรีดสันดอก เปิดเป็นช่องเพื่อเด็ดเกสรทิ้ง 
- พริกขี้หนูแดงบุบพอแตก 5-6 เม็ด 
- หมูกรอบหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย 
- น้ำมันหอย 1 ช้อนชา 
- ซีอิ๊วจีน 1/2 ช้อนชา 
- น้ำปลา 1 ช้อนชา 
- กระเทียมสับ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา 
- น้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย 

วิธีทำ 

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช เปิดไฟแรงๆ 
รอจนน้ำมันร้อนจัดแล้วใส่หมูกรอบและกระเทียมลงไปผัดพร้อมๆกัน 
เมื่อกระเทียมส่งกลิ่นหอมก็ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป (ยกเว้นน้ำ) 

ผัดพอมีกลิ่นหอม เติมน้ำ ผัดให้เข้ากันดี 
ตักใส่จาน กินกับข้าวร้อนๆ หรือกินเล่น ก็อร่อยดี 

ผัดแบบนี้ต้องใช้ไฟแรงและผัดเร็วๆ จึงจะอร่อย 
คำว่าผัดเร็วๆ นี้ หมายถึงใช้เวลาไม่นาน 
แต่อย่าใช้ตะหลิวคนเสียจนผักช้ำ 
ทิ้งจังหวะให้ผักได้รับความร้อน จึงค่อยกลับด้าน 

วิธีนี้จะทำให้ผักสุกเสมอกันอย่างรวดเร็ว 

**************** 

ขอบริจาคเกร็ดเลือดกรุ๊ป O ด่วนครับ

เนื้อหาข้อมูล จากเพื่อนๆ ส่งให้ครับ
-----------------------------------------------------------------------

เป็นเรื่องจริงครับ เป็นคุณอาของน้องที่ทำงานครับ โปรดพิจารณาให้ความช่วยเหลือ หรือช่วยส่งต่อก็ยังดีครับ ขอบพระคุณครับ

จิรวิชช์ ณ ถลาง 20 ม.ค. 54

ขอโทษที่รบกวนนะคะ ตอนนี้พ่อเจฟกำลังรักษาตัวอยู่รพ. ท่านกำลังต้องการเกล็ดเลือดอย่างมาก

แต่เกล็ดเลือดที่รพ.หมด จึงอยากจะขอรบกวนทุกท่านช่วยพ่อเจฟด้วย

ต้องการเกล็ดเลือดกรุ๊ปโอ

บริจาคได้ที่รพ.ศิริราช ระบุบริจาคให้ นายอภิสิทธิ์ บทศรี (อาของผม ฐาปกรณ์)

รหัสผู้ป่วย AN.53-052638 HN.52-653197 ขอบคุณมากค่ะ

ประมาณ ทุ่มกว่าๆ ของวันที่ 20/01/2011

ในเฟซบุ๊ค ของน้องผม

เมื่อกี๊หมอเรียกคุย หมอถามว่าจะให้เกล็ดเลือดกับพ่อไหม

ตอนนี้พ่อเริ่มมีเลือดออกตามร่างกายแล้ว ซึ่งเกล็ดเลือดที่ให้ไม่ตรงกับที่ร่างกาย

พ่อต้องการ ถ้าให้อาจจะมีการแทรกซ้อน ไข้สูง หนาวจัด แต่ถ้าไม่ให้อาจจะมีการ

เลือดออกในสมอง ทำให้อันตรายมากๆ ดังนั้นตอนนี้พ่อต้องการเกล็ดเลือดมากๆ

ขอความกรุณาผู้ใจบุญกรุ๊ป โอครับ เดือนนี้

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

ฐาปกรณ์ บทศรี

ฐาปกรณ์ บทศรี

ช่างศิลป์

หน่วยงานประชาสัมพันธ์

สังกัด หน่วยงานสื่อสารองค์กร

โทร. 02-2658744    089-1673634

---------------------------------------------------------------------------------

ขอให้หายไว ๆ นะครับ 

ชอบเที่ยวไทย :: หนีร้อนไปล่องทะเลน้อย ที่พัทลุง

                           อากาศร้อนเหลือเกิน  ใคร ๆ ก็พากันบ่น  ไม่ผิดเลยถ้าจะบ่นให้ทันสมัยเสียหน่อยว่า อากาศร้อน เพราะ “โลกมันร้อน”  ที่เกิดจากความแปรผันของธรรมชาติใต้พื้นพิภพและบนพื้นโลก  และมนุษย์เองก็มีส่วนทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ของบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก   ยอมรับกันหรือยังว่ามนุษย์เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้ อันเกิดจากกิเลสของมนุษย์ยุคปัจจุบันทั้งสิ้น

                            กิเลสทำให้ร้อนใจ แต่ถ้าร้อนกายก็หาที่หนีร้อนไปเที่ยวพักผ่อนกันบ้างก็ดีครับ    เราหนีร้อนไปล่องทะเลน้อย ที่จังหวัดพัทลุง กันดีกว่า   ปีนี้กลุ่มอดีตข้าราชการ รพช. ที่เคยอบรมเป็นเจ้าหน้าที่บริหารรุ่น 1 มาด้วยกัน  หรือเรียกย่อ ๆ ว่า จบ.รพช.1  ที่เขายังรวมกลุ่มกันแน่นแฟ้น  โดยมีคุณพรรณี มีกลิ่นหอม และคุณธวัชชัย อุดมวงษ์ แห่งพัทลุงเป็นหัวเรือ  นำสมาชิก หนีร้อนจากเมืองกรุง ไปเที่ยวทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง  เพราะเป็นฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวดูนกน้ำทะเลน้อย ช่วงสุดท้ายที่นกน้ำต่างถิ่นกำลังจะบินกลับไซบีเรีย  และยังเป็นช่วงที่บัวหลากหลายสายพันธ์ในทะเลน้อยกำลังเบ่งบานเต็มพรืดเป็นทะเลบัว ออกดอกเบ่งบานยามเช้า เช่น บัวหลวง บัวขาว และบัวสายสีแดงชมพู  เหมาะอย่างยิ่งที่จะเที่ยวทะเลน้อยในช่วงนี้ 

                             การเดินทางไปจังหวัดพัทลุงก็แสนจะสะดวกสบาย  โดยขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ ตู้นอน สายกรุงเทพฯ – บัตเตอร์เวอร์ธ   เที่ยว 14.45 น.  กินนอนและหลับอย่างสบาย ถึงสถานีพัทลุง เวลา 5.00 น.วันรุ่งขึ้น  พอถึงก็มีรถตู้มารับมุ่งไปทะเลน้อยทันที ระยะทาง 35 กม.   ได้อาบน้ำและรับประทานอาหารเช้าแล้วลงเรือหางยาว ดูนกน้ำ  และทะเลบัว   ออกทะเลกันแต่เช้าแดดไม่ร้อน และนกกาก็กำลังออกหากิน  เรือนำพวกเราแล่นฝ่าทะเลบัว เห็นนกน้ำผ่านตาเท่าที่จำได้ก็มี นกเป็ดน้ำ  นกอีโก้ง  ที่ขาดไม่ได้คือนกกระยาง     แต่สุดเท่ก็คือ นกกาน้ำ ชอบเกาะปลายหลักโดดเดี่ยว ยืนกางปีกรับแสงแดดยามเช้าเต๊ะจุ๊ยอย่างเท่  นกกาน้ำยืนท่านี้เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ถูกใจตากล้อง นักถ่ายภาพมือใหม่

                             เรือแล่นไปจนสุดทะเลน้อยอีกฝั่งทิศใต้ ลอดใต้สะพานแห่งใหม่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย  ผ่านทะเลน้อยเพื่อข้ามฟากจากอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงไปอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา  บริเวณนี้จะเห็นควายทะเลที่เจ้าของเขานำมาปล่อยให้หากินเองอย่างอิสระ ตามทุ่งหญ้าชุ่มน้ำหลายร้อยตัว

                              คืนแรกนอน ที่สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าทะเลน้อย  ซึ่งเพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่เอี่ยม พราะพักเพียงคืนเดียวเดี๋ยวเหลิง บรรยากาศดีมากัตว์?ินจังหวัดสงขลา ้อย  นีร้อนจากเมืองกรุง ไปเที่ยวทะเลน้อย จังหวัดพุ บรรยากาศดีมากท่ามกลางลมทะเลพัดเฉื่อยฉิวเย็นสบาย เพราะสถานที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของพื้นที่ชายฝั่งจึงได้รับอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มๆ  

                               เช้าวันรุ่งขึ้นเรามุ่งไปที่ทะเลสาบลำปำ  เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา ฝั่งจังหวัดพัทลุง  ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชี่อเสียงอันเก่าแก่ของจังหวัดพัทลุง  ลงเรือยนต์ที่นี่จุดหมายคือไปเที่ยวเกาะกระ   ซึ่งเป็นเกาะที่ชาวจีนมาเลเซียมาพัฒนาไว้เป็นศาลเจ้า เป็นที่บูชาจุดประทัดถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้คนไทยได้มีโอกาสมาเที่ยวเมื่อเร็วๆ นี้เอง  

                               

                               ขึ้นไปบนเกาะยังเห็นเถาวัลย์โบราณโตเท่าคนโอบยังสมบูรณ์อยู่  มีทั้งถ้ำ เถาวัลย์เลื้อยไต่ตามซอกและหินผา  ต้นไม้ใบหญ้ายังอุดมสมบูรณ์  แต่ถ้าไม่ช่วยกันรักษา  หากคน(มือบอน)มาเที่ยวกันมาก ๆ  อาจจะเตียนโล่งในไม่ช้าก็ได้   มีทางเดินสบาย ทำด้วยคอนกรีตเดินดูความสวยงามได้รอบเกาะ เป็นสถานที่น่าเที่ยวมากครับ  

                                จากนั้นเราก็มุ่งไปที่เกาะสี่เกาะห้า แหล่งทำรังของนกนางแอ่นอันมีชื่อเสียง เขาว่ารังนกนางแอ่นของที่นี่สมบูรณ์ดีกว่าที่อื่นๆ เรียกว่าดีที่สุดในประเทศไทย   มีนกนางแอ่นพันธุ์ไซบีเรียมาทำรังขาวสะอาดบริสุทธิ์ไว้ที่นี่  ราคากิโลกรัมละ 180,000 บาท   ส่วนพันธุ์พื้นเมืองไทยของเราออกจะขนาดเล็กและดำ ๆ   ต้องนำมาทำความสะอาดกันอีกหลายรอบกว่าจะนำมารับประทานได้   

                                เกาะสี่เกาะห้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่รัชกาลที่ 5  เคยเสด็จประพาส  แล้วจารึกพระปรมาภิไธย จปร.ไว้ที่หน้าถ้ำด้วย  ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่ห่างไกลในทะเลสาบสงขลาแห่งนี้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน พระองค์ได้เคยเสด็จมาแล้วและฉายพระฉายาลักษณ์ไว้ด้วย

                                ตกค่ำเราไปกินนอนกันบนแพ ที่เขานำไปลอยลำในทะเลสาบสงขลานอกชายฝั่งลำปำ   ลมทะเลพัดมาเย็น ๆ  ทำให้รู้สึกสบายคลายร้อย เหมาะจริงๆ ครับที่หนีร้อนมาเที่ยวทะเลน้อย ทั้งยังได้กินปูและกุ้งสด ๆ  ขณะลอยลำในทะเลลำปำแห่งทะเลสาบสงขลา  เชื่อว่าทุกคนประทับใจไม้รู้ลืมจริงๆ ครับ

                                คืนนั้นมีทั้งการเต้นรำ และร้องคาราโอเกะ  กันอย่างสนุกสนาน ที่ประทับใจมากได้มีโอกาสรู้จักกับจ้าวแห่งคาราโอเกะ  คุณสนั่น  อุตมะพันธุ์ จาก จ.ชัยภูมิ  ที่มีความสามารถในการร้องเพลงทั้งไทยและสากลได้อย่างราบรื่นไพเราะเพราะพริ้ง แถมยังเป็นดีเจ.ให้อีก   เป็นที่ถูกอกถูกใจชาว รพช. ไปไหนก็อยากเอาไปด้วย      

                               หนีร้อนไปพัทลุงทริปนี้ ปล่อยแก่กันอย่างเต็มที่ สนุกจริงๆ ครับ

                                                           ทะเลน้อยยามเช้า

สะพานเดินชมทะเลน้อย ริมชายฝั่ง

                                                        บัวสายบานยามเช้า

ทะเลบัวบานเช้าในทะเลน้อย

                                                   เรือแล่นแหวกทะเลบัว

ชาว รพช.นั่งเรือชมทะเลบัวยามเช้า

                                                            แหล่งบัวขาว

นกกาน้ำยืนเท่ กางปีกผึ่งแดดยามเช้า

                                      ชาวประมงยกยอหาปลากลางทะเลน้อย

สถานีพัฒนาส่งเสริมการอนุรักษ์สสัตว์ ป่าทะเลน้อย เราพักที่นี่

                                                          ทะเลน้อยยามเย็น

เรือส่งกระเป๋าพวกเราไปยังที่พัก สถานีฯอนุรักษ์ฯทะเลน้อย

                                 แวะเที่ยววัดบ้านสวน บรมธาตุเจดีย์เฉลิมพระเกียรติ

ตะวันแดง ทะเลน้อยยามเช้าวันรุ่งขึ้น

                                บนสะพานขามทะเลน้อย เชื่อมควนขนุน-ระโนด

มองจากสะพานเห็นควายทะเลหากินอย่างอินสระเสรี

ควายทะเล หากินบนพื้นหญ้าชุ่มน้ำ กลางทะเลน้อยอันเวิ้งว้าง

มหกรรมยกยอริมทะเลน้อย ที่นี่เขาเรียกยอยักษ์

เรือประมงกลางทะเลน้อยที่ราบเรียบ

ลงเรือล่องทะเลสาบสงขลาไปเกาะกระ และเกาะสี่เกาะห้า

เรือวิ่งฉิวฝ่าเปลวแดดในทะเลสาบสงขลา

ตกเย็นกินนอนร้องคาราโอเกะ ลอยลำกลางทะเล /คุณขวัชชัยฯกับคู่ชีวิต

                               น้องก้องและน้องเกรส กับคุณแม่ ลูกหลานคน รพช.

เรือกำลังเทียบท่าเกาะกระ  เห็นเศษประทัดแดงเหมือนดอกไม้

เกาะกระยังอุดมสมบูรณ์ด้วยเกาวัลย์ไม้เลื้อย

เถาวัลย์ใหญ่ขนาดคนโอบ

                                      อีกมุมมองของเกาวัลย์ที่ยังสมบูรณ์

มัคคุเทศก์ กำลังบรรยาถึงที่มาของหินประหลาด

                            เก๋งจีนที่ชาวจีนมาเลย์มาสร้างไว้บนเกาะ

คนจีนนิยมมาจุดประทัดบริเวณนี้

ชาวจีนมาเลย์นิยมมาไหว้เจ้าบนเกาะกระ

พระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 หน้าถ้ำ บนเกาะสี่เกาะห้า

รังนกสีขาวเป็นนกนางแอ่นจากไซบีเรีย ราคากก.ละ180,000บาท

ภาพรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสเกาะสี่เกาะห้า

                                               ในก้ำมีศาลเจ้า หลายศาล

ซากกระโหลกจรเข้ในถ้ำ

                                                      ศาลตาโส-ยายโส

พระปรมาภิไธย จปร.เหนือปากก้ำ มีอุปกรณ์เก็บรักนกวางอยู่ 

ภาพหมู่ชาว รพช.หน้าพระบรมราชานุเสาวรีย์ ร.5

                                        พอถึงพัทลุงก็มุ่งสู่ทะเลน้อย ยามเช้า

                             ไปพัทลุงใช้บริการรถไฟ ตู้นอนกรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวิร์ธ