กฟผ.หวั่นปี56ไทยเสี่ยงไฟฟ้าดับ ชี้การใช้โตผิดคาด8%จี้พลังงานแก้ด่วน (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กฟผ.เตือนไทยเสี่ยงขาดแคลนไฟฟ้าปีหน้า หากความต้องการใช้ยังพุ่ง 8% เหมือนปีนี้ ระทึกปี 56 ไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบลุ้นสำรองไฟฟ้าต่ำกว่า 15% เข้าภาวะอันตรายต่อความมั่นคงไฟฟ้าประเทศ จี้กระทรวงพลังงานเร่งแก้ไขระบุลงไปในร่างพีดีพีฉบับใหม่ "สุทัศน์" เผยกั๊กน้ำในเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ เพิ่ม หวั่นภัยแล้ง
วันนี้ (4 พฤษภาคม) นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่ากฟผ.มีความกังวลต่อสถานการณ์สำรองไฟฟ้าในปี 2556 จะอยู่ในภาวะอันตราย เสี่ยงต่อความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าของประเทศมีสำรองลดต่ำกว่า 15% ของปริมาณไฟฟ้าทั้งหมด เนื่องจากในปี 2555 แนวโน้มการใช้ไฟฟ้ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 8% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตเพียงแค่ 4-5%
โดยมีปัจจัยมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ภายหลังผ่านสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมกลับมาเดินเครื่องผลิตเต็มกำลังผลิต ประกอบกับสภาพอากาศปี 2555 นี้ร้อนจัด เฉลี่ยกว่า 38.5 องศา ส่งผลให้การใช้เกิดการใช้ไฟฟ้าทำลายสถิติสูงสุด (พีก) ถึง 7 ครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2555 พีกอยู่ที่ 26,121 เมกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.โดยรวมอยู่ที่ 31,446.7 เมกะวัตต์
นายสุทัศน์กล่าวว่า นอกจากนี้ในปี 2556 ยังไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่ เข้าสู่ระบบ เนื่องจากโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) 2 ราย ได้เลื่อนเข้าระบบจากปี 2556 เป็นปี 2558 ดังนั้น หากปี 2556 ความต้องการใช้ไฟฟ้ายังคงอยู่ระดับ 8% หรือความต้องการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 28,000-29,000 เมกะวัตต์ ถือว่าความมั่นคงไฟฟ้าของประเทศอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้สำรองไฟฟ้าจากที่ควรอยู่ระดับ 15-20% ลดต่ำกว่า 15% ได้ ดังนั้น กฟผ.จะหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อให้กระทรวงพลังงานพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยต้องวางแผนการแก้ไขลงไปในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2555-2573 (พีดีพี 2010) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ที่กระทรวงพลังงานกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ในขณะนี้
" หากปีหน้าสำรองไฟฟ้าต่ำกว่า 15% ถือว่าอยู่ในภาวะอันตราย ซึ่ง กฟผ.จะต้องบริหารจัดการผลิตไฟฟ้าอย่างเหมาะสมที่สุด แต่หากเกิดปัญหากับท่อส่งก๊าซฯ ขึ้นกะทันหัน เชื่อว่าไฟฟ้าจะไม่พอใช้แน่แต่ปีนี้สัดส่วนการใช้ไฟฟ้าที่โต 8% สูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่โตประมาณ 5% ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวแล้ว และหวังว่าปีหน้าการใช้ไฟฟ้าจะกลับสู่ภาวะปกติที่ระดับ 4-5% ซึ่งจะช่วยให้สำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% แต่คงต้องรอดูสภาพอากาศในปีหน้าด้วย" นายสุทัศน์ กล่าว
นายสุทัศน์กล่าวว่า ปัจจุบันสำรองไฟฟ้าของไทยยังอยู่เกือบ 20% ของกำลังการผลิตทั้งหมดที่ 31,446.7 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 526.68 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงไฟฟ้าของ กฟผ. กำลังผลิตตามสัญญา 14,998.13 เมกะวัตต์ รับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) กำลังผลิตรวม 12,081.69 เมกะวัตต์ รับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) 2,182.30 เมกะวัตต์ และรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศอีก 2,184.60 เมกะวัตต์ การผลิตและซื้อพลังงานไฟฟ้ายังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง 67.03% รองลงมาเป็นถ่านหิน 18.65% และซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ พลังน้ำ และพลังงานหมุนเวียน
สำหรับสถานการณ์น้ำในปี 2555 นี้ยังมีความเสี่ยงทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วม ดังนั้น กฟผ.และอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ จึงปรับเกณฑ์การระบายน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จากที่กำหนดให้เหลือน้ำในเขื่อนขั้นต่ำ 45% ให้เพิ่มขึ้นเป็น 50% เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น ส่วนเดือนพฤษภาคมนี้ที่เข้าสู่ฤดูฝนนั้น กฟผ.เชื่อว่าเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ยังมีศักยภาพรองรับน้ำได้กว่า 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
กฟผ.เตือนไทย เสี่ยงขาดแคลนไฟฟ้าปีหน้า หลังใช้พุ่ง ชี้การใช้โตผิดคาด
ที่มา: ขอขอบคุณข้อมูลจากเพื่อน ๆ ด้วยครับ
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ (Find me on)