เรื่องแปลก ใหม่ น่าสนใจ ข่าวสาร บันเทิง สนุก เซ็กซี่ sexy ที่คุณ อยากรู้ ที่นี่ครับ ^^

SAMAZshop

Translate

หลุดอีกแล้ว!!! "นู้ดดารา" วุ่น ภาพจริง หรือตัดต่อ

ภาพหลุด นู้ดดารา ฮ่องกง กลับมาสร้างกระแสอีกครั้ง หลังมีรายงานว่า  “ฟาลา เฉิน” หรือ “เฉินฝ่าลา”  นักแสดงสาวชาวฮ่องกงจาก TVB ตกเป็นเหยื่อรายล่าสุด ที่มีภาพนู้ดส่วนตัวถูกปล่อย ว่อนเน็ต ในขณะนี้  และได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมากด้วย 


แต่ อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจีนส่วนใหญ่ เลือกที่จะสนับสนุนไปทางการให้กำลังใจนักแสดงสาวชื่อดังมากกว่า และบางคนยังเปรยว่า ภาพดังกล่าวอาจเป็นการตัดต่อหรือทำโฟโต้ช็อป ซึ่งหนึ่งในชาวเน็ต อ้างด้วยว่า แจ้งตำรวจเพื่อสืบหาที่มาที่ไปของภาพ ไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ด้าน ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ยังไม่ได้ออกมากล่าวอะไร ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ และ  ฟาลา เอง ก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ซึ่ง วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เธอก็เพิ่งเขียนในเว็บ Weibo ของเธอ เพื่อต้อนรับวันแห่งความรัก ว่า “วันวาเลนไทน์ ดีใจจัง รักผู้อื่นและรักตัวเองด้วย”





วิธีปฏิบัติเมื่อ มือถือเปียกน้ำ หรือ ตกน้ำ ( รับมือสงกรานต์ ;)

สงกรานต์กำลังจะมาาาาาา
แล้วถ้ามือถือเราเปียกน้ำ เราต้องทำยังไง
เชื่อเหอะ หลายคนเคยอ่าน แต่ว่าถ้าเจอกับตัวจริงๆ ก็ยังอยากอ่านอีกครั้งนึงล่ะน่า
มาดู "วิธีปฏิบัติเมื่อ มือถือเปียกน้ำ หรือ ตกน้ำ" 
1. ร้องไห้   
2. แล้วทำใจซะเค้าไม่ใช่ของเรา   
เอ้ย.ม่ายช่าย....     55555+++

วิธีปฏิบัติเมื่อ มือถือเปียกน้ำ หรือ ตกน้ำ 
ถ้าทำตก แบบนิดหน่อย หรือน้ำหกใส่นะครับ ถ้าตกไปทั้งตัวเครื่องแบบ ลงไปในน้ำหมด ก็ เสียจายด้วยนะครับ

 1.หลังจากเอาเครื่องขึ้นจากน้ำแล้ว ห้าม! กด power เปิดเครื่องเด็ดขาดครับ ถ้าเปิดจะเกิดการลัดวงจรขนานใหญ่
2.ถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องโดยด่วน 
3. เช็ดเครื่องให้แห้งและวางไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ห้ามตากแดดหรือใช้ไดร์เป่าผมเป่านะครับ ข้อนี้ ใช้เวลานานนะคับ ถึงจะแห้ง เพราะ ข้างใน นั้น แห้งช้า ถ้าเป็นไปได้ แกะออกมาวางผึ่งลมไว้ (บ้านใครมีถังข้าวสาร พอรู้สึกว่าแห้งพอควร ให้เอาผ้าห่อแล้วซุกไปในถังข้าวสารก็ได้ ข้าวสารจะช่วยดูดความชื้นออกจากเครื่องโทรศัพท์ได้ครับ)
4.เช็คให้ แน่ใจว่าเครื่องแห้งดีแล้วนำแบตเตอรี่ใส่แล้วเปิดเครื่องดู หากเครื่องติดก็แสดงว่าใช้งานได้ แต่หากไม่ติดให้รีบนำโทรศัพท์เข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการทันที

65 ปี ที่ล้มเหลว เทียบไม่ได้เลยกับ 20 ปีแห่งความสำเร็จ "KFC เรื่องราวของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้"


          มีชายคนหนึ่ง พ่อของเขาเสียชีวิตตอนที่เขาอายุได้เพียงห้าขวบเขาต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะอายุ 16 ปี

ตอนอายุ 17 ปี เขาแสดงความสามารถพิเศษด้วยการตกงานติดต่อกันถึง 4 ครั้ง 

เขา แต่งงานตอนอายุ 18 ปี ปีถัดมาเขาได้เป็นพ่อคนแต่ชีวิตคู่ของเขาก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นานนัก อายุ 20 ปี ภรรยาของเขาพาลูกสาวหนีไปเพราะทนใช้ชีวิตกับเขาไม่ได้

ช่วงอายุ 18-22 ปี เขาประกอบอาชีพเป็นคนขายตั๋วรถไฟแล้วก็ล้มเหลวแต่เขาก็ยังต่อสู้กับชีวิตด้วยการหาโอกาสให้ชีวิต แต่ทุกอย่างที่เขาทำก็ไม่วายล้มเหลวเหมือนเดิม

เขาสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพแต่ก็ถูกขับออกมาหันเหมาสมัครเข้าโรงเรียนกฎหมาย แต่ด้วยความสามารถอันเอกอุเขาถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

แล้วเขาก็ไปทำงานเป็นพนักงานขายประกัน แน่นอนที่สุดเขาล้มเหลวอีกครั้ง (แล้ว)

แค่เกริ่นมาข้างต้นก็คงไม่ต้องบอกว่า ชายคนนี้ทำอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง ! 
แต่ก็อย่างว่าแหละ คนเราอะไรมันจะไม่ได้เรื่องไปเสียหมดสิ่งเดียวที่ เ ขาพบว่า เขาทำได้ดีก็คือ การทำอาหาร 
         ดังนั้นเขาจึงไปทำงานเป็นพ่อครัวและคนล้างจานในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่ทรงคุณค่าอะไรเลยในความคิดของเขาชีวิตที่ร้านกาแฟ เขามีเวลามากมายที่จะนั่งคิดและทำอะไรได้มากพอสมควรแต่เขากลับเลือกใช้เวลา นั่งคิดถึงภรรยาและลูกสาวของเขาเขาเพียรพยายามติดต่อภรรยาและอ้อนวอนให้เธอ กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธ

    เขาเปลี่ยนความคิดใหม่ เขาไม่ต้องการภรรยาอีกต่อไป ขอเพียงแต่ได้ลูกสาวกลับคืนมาก็พอเพราะเขารักและคิดถึงเธอเหลือเกินเขาใช้ เวลาว่างในร้านกาแฟวางแผนในการนำลูกสาวกลับคืนมาสู่อ้อมอกของตนเขาวางแผนทุก ขั้นตอนละเอียดยิบ คำนวณทุกฝีก้าวในที่สุดแผนการอันแสนยาวนานก็เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาผ่านไป หนึ่งสัปดาห์ คุณพ่อวัยรุ่นผู้น่าสงสารซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นอกบ้านหลังเล็กๆ ของภรรยาของเขาเฝ้ามองลูกสาวของเขาเล่นอยู่หน้าบ้านและเตรียม พร้อมที่จะ "ลักพาตัวเธอ!"แล้ววันที่ตั้งใจไว้ก็มาถึง เขาซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้อย่างระมัดระวัง แม้จะรู้สึกกังวล ตื่นเต้น และตระหนกอยู่บ้างแต่นั่นมิอาจเทียบได้กับความรักที่เขามีต่อลูก เขาตัดสินใจที่จะต้องลงมือทำให้สำเร็จ แต่แล้วอนิจจา

วันนั้นลูก สาวของเขาไม่ออกมาเล่นหน้าบ้านเลยแม้กระทั่งความพยายามในการก่ออาชญากรรม เขา ก็ยังล้มเหลวเขารู้สึกเหมือนคนที่พ่ายแพ้ต่อโชคชะตา รู้สึกเหมือนคนไม่มีค่าและเหมือนพระเจ้ากำหนดมาแล้วว่าเขาจะต้องอยู่เพียง ลำพังไปตลอดชีวิต แต่เหมือนปาฏิหาริย์ ในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวภรรยาให้กลับมาอยู่ด้วยกันได้พวกเขาทำงานด้วย กันในร้านกาแฟแห่งนั้น ทำอาหารและล้างจานอยู่จนกระทั่งเขาเกษียณ ตอนอายุ 65 ปี

วันแรกของการเกษียณอายุ เขาได้รับเช็คเงินประกันสังคมฉบับแรกของเขา เป็นเงิน 105 ดอลลาร์(ราวสี่พันบาท) เช็คดังกล่าวเหมือนเป็นตัวแทนของรัฐที่ฝากมาบอกเขาว่า เขาไม่อาจจะดูแลตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือใช้ชีวิต อยู่จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกถูกปฏิเสธ ล้มเหลว เสียกำลังใจ และท้อแท้ชีวิตของเขาได้รับความผิดหวังอีกครั้งหนึ่งหลังจาก 65 ปีอันยาวนาน เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าเขาดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องมีชีวิตอยู่โดยให้รัฐบาลดูแลเขาก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอีกต่อไป เขาตัดสินใจ (อีกแล้ว) ว่า "จะฆ่าตัวตาย" 

เขา หยิบกระดาษหนึ่งแผ่นกับดินสอหนึ่งแท่งนั่งลงใต้ต้นไม้ในสวนหลังบ้านอย่างสงบ ตั้งใจที่จะเขียนคำสั่งเสียและพินัยกรรมแต่แทนที่จะทำเช่นนั้น กลับเหมือนมีอะไรมาดลใจ เหมือนเป็นครั้งแรกที่ชีวิตเกิดปัญญาเขาเริ่มต้นเขียนสิ่งที่เขาควรจะเป็น ชีวิตที่เขาควรจะมี และสิ่งที่เขาปรารถนาในช่วงชีวิตสุดท้ายที่เหลืออยู่เขาตกใจมาก เมื่อค้นพบความจริงในชีวิตว่า เขายังไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาสักอย่างเลย ! (เพิ่งนึกได้)

          เขานั่งครุ่นคิดกับตัวเองอย่างจริงจัง มีบางอย่างที่เขาสามารถทำได้บางอย่างที่คนที่รอบตัวทำสู้เขาไม่ได้ ใช่ ! เขารู้วิธีปรุงอาหารชีวิตเกือบทั้งหมดของเขา อยู่ที่หน้าเตาร้อนๆ มาตลอด เขาตัดสินใจกับตัวเองอีกครั้งในที่สุดเขาเลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไร สักอย่างในชีวิตให้ประสบความสำเร็จเขาตั้งใจว่าถ้าเขาจะตาย เขาก็อยากจะตายในแบบที่ได้ลองพยายามเป็นใครสักคนและทำบางสิ่งบางอย่างที่มี ค่าด้วยชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดของเขาเขาลุกจากเงาไม้ มุ่งหน้าไปยังธนาคารในเมือง เพื่อขอยืมเงินจำนวน 87 ดอลลาร์จากเช็คประกันสังคมฉบับต่อไปของเขาด้วยเงิน 87 ดอลลาร์นั้น เขาซื้อกล่องเปล่าและไก่จำนวนหนึ่ง

จากนั้นเขาก็กลับไปที่บ้านและลงมือทอดไก่ที่ซื้อมาด้วยสูตรพิเศษที่เขาได้คิดค้นขึ้นมา ในช่วงหลายปีที่ทำงานที่ร้านกาแฟนั้นเขาเริ่มขายไก่ทอดของเขาตามบ้านต่างๆ ในเมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ของเขา

แล้ว คนขายไก่ทอดอายุ 65 ปีคนนั้นก็กลายมาเป็นผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์สราชาผู้เป็นที่รักของอาณาจักร Kentucky Fried Chicken หรือที่เรารู้จักกันในนาม KFC นั่นเองตอนอายุ 65 ปี เขาเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวที่ยังมีชีวิต แต่ในวัย 85 ปีเขาก็กลายเป็นเศรษฐีพันล้านและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีผู้คนให้เกียรติเขาทั่วประเทศ

          เรื่อง ราวชีวิตของผู้พันแซนเดอร์ส เป็นอีกบทหนึ่งของเรื่องราวความสำเร็จที่ได้รับคำยกย่องจากผู้คนทั่วโลก แต่ใครจะรู้บ้างว่าหากใต้ต้นไม้วันนั้นผู้พันแซนเดอร์สได้ทำตามที่เขาตั้งใจ ไว้แต่แรกตำนานไก่ทอดสะท้านโลกก็คงจะไม่มีให้เราได้เห็นกัน จริงอย่างที่เขาว่า ความสำเร็จกับความล้มเหลวห่างกันเพียงแค่พลิกฝ่ามือมันอยู่ที่ว่าคุณเลือก ที่จะ "สู้ต่อ" หรือ "ยอมแพ้" 

สำหรับผู้พันแซนเดอร์ส 65 ปี ของชีวิตที่ล้มเหลว เทียบคุณค่าอะไรไม่ได้เลยกับ 20 ปีแห่งความสำเร็จ

แล้วชีวิตของคุณหละ ล้มเหลวมากพอหรือยัง ? 

ผลงานภาพเขียน อ.เฉลิมชัย สวยงาม มีคุณค่า ครับ













ติดตาม เรื่องแปลก ใหม่ ตลก สนุก เซ็กซี่ sexy น่าสนใจอื่น ๆ หรือแวะมาทักทายกัน ได้ที่
www.facebook.com/somphon http://gplus.to/somphon www.twitter.com/samaphon www.facebook.com/somphon.me http://samaphon.blogspot.com/

          ขอขอบคุณที่มา : email