อั้ม พัชราภา" กับเฟอร์รารี่ 20 ล้าน..

สับขาหลอกมาหลายรอบ ก็ยังไม่รู้ว่าใครกันแน่จะเข้าวิน หนุ่มสรณ์ หนุ่ม บอย หนุ่งกึ้ง หนุ่มกฤษณ์ แต่ที่แน่ตอนนี้มีข่าวเม้าท์ว่า

หนุ่มสรณ์มาแรงแซงทางโค้งสุดๆ ล่าสุดที่มีข่าวว่าจะถอยรถพอร์ช 10 ล้านให้สาวอั้มนั้น แหล่งข่าววงในแจ้งมาว่าไม่เป็นความจริงตามที่นางเอกสาวได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว แต่อันที่จริงแล้วหนุ่มสรณ์ได้ถอยรถเฟอร์รารี่ สนนราคาร่วม 20 ล้านบาทให้สาวอั้มเรียบร้อยแล้วต่างหาก งานนี้นักธุรกิจหนุ่มหวังซื้อใจซุป"ตาร์สาวให้ได้ เพราะเพียงแค่สาวอั้มเปรยว่าอยากได้รถเฟอร์รารี่รุ่นนี้เพียงเท่านั้น หนุ่มสรณ์ ก็รีบไปเนรมิตมาประเคนให้อั้มทันที และเพื่อคอนเฟิร์มว่าตนนั้นรวยจริงฝ่ายชายก็ถอยรถลัมเบอร์กินี่ป้ายแดงออกมาโฉบเฉี่ยวไว้คอยรับ-ส่งสาวอั้มโดยเฉพาะอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มใจปล้ำ ใจถึง เปย์หนักตัวจริงเสียงจริงเลยทีเดียว

เครดิตจากดาราเดลี่....

แหมมมม....นี่ขนาดอายุ 30 กว่าแล้ว ยังเรตติ้งดีขนาดนี้ น่าอิจฉาอย่างแรง

 

เน้นสี ภาพสวย ๆ ชอบ ๆ

วันเบาๆ ของผู้หญิงคนนี้....คุณสุมณี คุณะเกษม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนดังในแวววงไฮโซไซตี้ไทย ที่ขยับเขยื้อนกายไปไหนมักถูกจับตามอง หนึ่งในนั้นต้องมี “สุมณี คุณะเกษม” เจ้าของมรดกแสนล้าน ด้วยชีวิตสุขสบายบนอพาร์ทเมนต์สุดหรู เนื้อที่สองไร่ใจกลางกรุง ตารางวาละล้านกว่า วันนี้เธอพร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตความเป็นคนดัง และที่พักพร้อมข้าวของตกแต่งสุดอลังการ

     ชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ กำเนิดในตระกูลมั่งคั่ง และเป็นภรรยาอดีตเอกอัครราชทูต คุณประชา คุณะเกษม หลายคนมองว่าคุณสุมณี มีชีวิตเพียบพร้อม สุขสบายจนน่าอิจฉา แทบไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก แต่ขณะเดียวกันเธอกลับมีหลักคิดการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ

   “อะไรที่สามารถให้ความสุข สนุกสนานดิฉันจะทำ แต่ก็ไม่ลืมแบ่งเวลาให้กับสิ่งต่างๆ รอบตัว ทำแต่ละวันให้ครบถ้วน ตั้งแต่เช้าจนค่ำว่า ควรทำอะไรให้ตัวเอง ครอบครัว เพื่อนฝูง บริวารและสังคมบ้าง

    “ชีวิตประจำวันดิฉันตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า บางทีก่อนหน้านั้นอีก แต่ถ้าไม่ตื่น สุนัขที่เลี้ยงไว้จะปลุกเอง (หัวเราะ) สัก 8 โมง ลงมาเคลียร์งาน ประมาณบ่าย 3 โมง เตรียมแต่งตัวออกจากบ้าน ไปกินเลี้ยงสังสรรค์เต้นรำกับเพื่อนๆ ตอนค่ำ แต่ละเดือนต้องทำบุญ ทำทาน เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือเดือนละคู่ โดยเฉพาะเพศเมียที่ตั้งท้อง ปล่อยปลาไข่ 100 กิโลกรัม หากจัดเวลาให้ครบทุกส่วนแล้ว ดิฉันเชื่อว่าตัวเราจะรู้สึกเต็มอิ่ม ตื่นเช้าก็มีความสุข”



บิวตี้แอนด์สไตล์สุดเอกลักษณ์

    ในแวดวงสังคม คุณสุมณีนับเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่แม้นานทีจะออกงานสักครั้ง แต่เรียกเสียงฮือฮาได้ด้วยสไตล์แต่งตัวสุดตระการตา และวิกผมที่เป็นโลโก้
“ดิฉันชอบอัญมณี ไปไหนเห็นชิ้นที่น้ำงามจะเก็บสะสมไว้ เมื่อได้ครบตามจำนวนสำหรับทำเครื่องประดับ ก็จะวาดแบบ ดีไซน์เอง แล้วสั่งทำขึ้นมาตามสไตล์ที่ชอบ สำหรับการแต่งตัว ชอบทุกสไตล์ถ้าเข้ากับตัวเรา ส่วนมากแบรนด์ต่างประเทศเลือก Jean Paul Gaultier, Kenzo, Roberto Cavalli ใส่แล้วไม่ผิดหวัง ส่วนแบรนด์อื่น มีบ้างประปรายถ้าถูกใจ สำหรับดีไซน์เนอร์ไทย ส่วนใหญ่ใช้ของ Karita Osel ที่ตัดได้เหมาะกับตัวเรา

    “วิกผมใส่มากว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่สามีกลับจากรับราชการต่างประเทศ สาเหตุเพราะเคยใช้ช่างผมที่ตัดให้เซเลบริตี้คนดัง แล้วชอบว่าฝีมือตัดได้ถูกใจจริงๆ แต่เมื่อกลับมา ไม่เจอช่างถูกใจ ประกอบกับตารางชีวิตประจำวันที่แน่นเอี้ยด ไหนจะต้องดูแลบริษัทและครอบครัว ไม่มีเวลาไปนั่งทำผมครึ่งค่อนวัน อีกทั้งไม่อยากรบกวนผมด้วยการย้อมสีมากเกินไป จึงเลือกใส่วิก เวลาไปไหนก็สะดวก รวดเร็วดี สามารถเปลี่ยนทรงและสีวิกได้ตามเมคอัพและสไตล์ชุดที่แต่ง จนหลังๆ เพื่อนนิยมตามกัน (หัวเราะ)

     "เรื่องสุขภาพ ทุกเช้าต้องดื่มน้ำผักผลไม้แยกกากแก้วใหญ่ โดยเลือกซื้อตำราสูตรมาให้แม่บ้านทำ คั้นปุ๊บต้องดื่มภายใน 15 วินาที และระหว่างที่แม่บ้านนำน้ำผลไม้มาให้ต้องมีฝาปิด ไม่ให้สัมผัสกับลมหรือแสงแดด โดยจะสับเปลี่ยนผลไม้ไปเรื่อยๆ ให้ครบหลากหลายสี ตามที่คุณหมอแนะนำ ตามด้วยอาหารเช้าง่ายๆ เป็นข้าวกล้องต้มกับปลาทอด ถ้าเมนูฝรั่ง เป็นขนมปังโฮลวีทกับไข่ลวก มื้อเย็นเน้นเมนูเบาๆ กินก่อนไปเต้นรำ ช่วยเผาผลาญได้ส่วนหนึ่ง

    “ดิฉันอายุประมาณนี้แล้ว จะไปออกกำลังกายหักโหมมากไม่ได้ จึงเลือกเต้นรำ ซึ่งได้พบปะเพื่อนๆ และสนุกด้วย เต้นทุกวันประมาณ 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืน เต้นบ้าง นั่งบ้าง สนุกทุกจังหวะ อย่างบอลรูม แทงโก้จะท่าสวย หากเป็นลาติน ต้องจังหวะคิวบัน โรแมนติกดี”

คอลเลกเตอร์งานศิลป์
    หากใครได้มาเยี่ยมอพารท์เมนต์สุดหรูของคุณสุมณี ต้องตื่นตะลึงกับงานตกแต่งบนชั้น 8 และ 9 ที่เต็มไปด้วยงานศิลป์หายาก ประเมินค่ามิได้ เธอกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะว่า “ไปไหนเงินแทบไม่เหลือ หมดกับข้าวของ เฟอร์นิเจอร์งานศิลปะ เดี๋ยวรูปปั้น เดี๋ยวแจกัน พอนำมาจัดวางแต่งห้องได้ครบเซ็ตจะขายก็เสียดาย ถ้าเรียกบริษัทประมูลต่างประเทศมาวันเดียว เชื่อว่าเกลี้ยง (หัวเราะ)

   “ยิ่งปัจจุบันคนหันมาสะสมงานศิลปะมากขึ้น ประมูลแย่งกันจนราคาสูงลิบลิ่ว คนที่ประมูลไปได้ก็ใช่ว่าจะนำออกมาโชว์ และคนที่เป็นเจ้าของถ้าเสียชีวิตไปแล้ว ลูกหลานจะโดนบังคับโดยปริยายให้เสียภาษีมรดก ซึ่งส่วนมากรับภาระไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจนำออกประมูลขาย

    “ดิฉันจึงคิดว่า การจัดตั้งเป็นมูลนิธิ “มณีมณฑ์ชา" (มณี มาจากชื่อสุมณี, มณฑ์ มาจากชื่อลูกชาย และชา จากชื่อสามี ประชา) น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุด แม้ดิฉันจะจากไปแล้ว ของสะสมเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลัง สามารถมาเข้าชมเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะสมัยต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปต่างประเทศ ตั้งใจเปิดให้เข้าชมเหมือนมูลนิธิจิม ทอมป์สัน อาจเก็บค่าเยี่ยมชมเล็กน้อย เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าดูแล ที่เหลือไว้ทำการกุศล บำรุงวัด ช่วยคนยากไร้ ให้ทุนการศึกษา หรือช่วยเหลือสัตว์”
แม้จะเดินทางมาแล้วทั่วโลก มีบ้านพักตากอากาศสุดหรูหลายแห่งไว้ในครอบครอง แต่คุณสุมณีกลับเลือกกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด

   “จริงๆ ในต่างประเทศคุณภาพชีวิตดีกว่า แต่รากเราอยู่ที่ประเทศไทยและพอดีลูกชายต้องกลับมาประจำที่ประเทศไทย ดิฉันจึงเลือกกลับมาดูแลครอบครัวให้พร้อมหน้า เคยตั้งใจไว้เหมือนกันว่าเกษียณแล้ว อยากไปอยู่อเมริกา ยุโรปที่ละ 3 เดือน ทำไปทำมาก็ไม่สำเร็จ ตอนนี้บ้านพักต่างประเทศขายหมด แม้แต่ที่ประเทศฟิจิ ซึ่งฝรั่งเกษียณนิยมไปซื้อที่นั่น เป็นบ้านพักขนาด 4 ห้องนอน สามารถลงเรือจากหน้าบ้านออกทะเลไปได้ แต่ดิฉันไม่มีเวลาไป หาคนเช่าก็ยุ่งยากแถมต้องจ้างทนายดูแล
 
   “นี่ก็เพิ่งขายที่ใกล้ๆ อพาร์ทเมนต์ไปประมาณ 2 ไร่กว่า ประเมินราคาตารางวาละล้านกว่า ซึ่งความตั้งใจเดิมอยากสร้างคอนโดลักซ์ชัวรี่ที่สุดในเซาท์อีสเอเชีย ทุกยูนิตมี 2-3 ชั้น เป็นดูเพล็กซ์ ทรีเพล็กซ์ ข้างในมีลิฟต์ของตัวเองด้วย ห้องอาหารรับรองแขกอย่างน้อย 24 ที่ พอดีมีคนให้ราคาดี กอรปกับอายุมากแล้ว กว่าจะสร้างเสร็จแล้วขายให้หมดอีก สู้เอาเวลามาเต้นรำดีกว่า” (หัวเราะ)

    และนี่คือส่วนหนึ่งของชีวิตไฮโซแสนล้านอย่าง "สุมณี คุณะเกษม"



เครดิตจากนิตยสารแพรว