แม่พาลูกวัย 9 ขวบนั่งขอทานรับบริจาคเงินจากคนใจบุญ รักษาลูกถูกไฟไหม้

หยังนอนซบแม่บนเสื่อริมถนน เมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้หยังต้องสวมใส่ผ้ายางยืดคลุมตามศีรษะและแขนขา เพื่อไม่ให้บาดแผลติดเชื้อ

เอเอฟพี / ไชน่า เดลี - ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป ! แม่จีนพาลูกวัย 9 ขวบ มานั่งขอทานบริเวณถนนในเมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย เพื่อหาเงินรักษาลูกที่ถูกไฟไหม้หนัก หลังครอบครัวหมดเงินรักษาจนเป็นหนี้ท่วมหัว
   
      หยัง เว่ยเห่า ตี๋น้อยวัย 9 ขวบ ถูกเพลิงจากกองฟางในไร่ที่บ้านของตนในเมืองเจี้ยโส่ว มณฑลอันฮุย เผาไหม้อย่างหนัก เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นแผลไหม้รุนแรงบนใบหน้าและตามลำตัวแขนขา ทำให้เด็กน้อยต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน
   
      พ่อแม่ได้พาหยังไปรับการรักษาผ่าตัดเนื้อเยื่อที่โรงพยาบาลแล้ว 2 ครั้ง เสียค่าใช้จ่ายไปมากกว่า 200,000 หยวน จนเป็นหนี้เป็นสินอย่างหนัก ทำให้ขณะนี้ครอบครัวของหยังสิ้นไร้ไม้ตอกหมดหนทางสู้ แม่จำต้องพาหยังมานั่งขอทานรับบริจาคเงินจากคนใจบุญมีจิตเมตตาที่เดินเท้า ผ่านไปมาริมถนนในเมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย เพียงหวังว่าจะนำเงินไปเป็นค่าผ่าตัดรักษาลูกน้อยให้มีอาการดีขึ้น


แม่อยู่เคียงข้างไม่ห่าง





แม่คอยสอนหนังสือลูกไปพลางระหว่างนั่งขอบริจาคเงิน ริมถนนเมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา

 
หยัง เว่ยเห่า ยังร่าเริงเล่นสนุกแม้เผชิญกับวิกฤตชีวิตอันสาหัส


จุมพิตจากแม่เปี่ยมล้นด้วยกำลังใจที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน 

10 ร้านอาหารที่มีคนรอคิว นานที่สุด ใครไปมาแล้ว โชว์ตัวด้วยครับ ^^

อันดับ 10

ก๋วยเตี๋ยวนครปฐม นายเปลว 

เปิด 18.00-22.30 น. จากถนนรัชดาภิเษกเลี้ยวเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญที่แยกห้วยขวาง ไปตามป้ายบอกทางไปโรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญร้านอยู่เยื้องกับโรงเรียน ปิดวันอาทิตย์

อันดับ 9 เครปญี่ปุ่น โชคชัย 4  เปิด 21.00-4.00 น. จากถนนลาดพร้าวเลี้ยวเข้าถนนโชคชัย 4 ร้านอยู่ใกล้กับซอย 54 ตรงข้ามร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น

อันดับ 8 Home Bread ขนมปังอบ ซอยละลายทรัพย์  เปิด 7.00-14.00 น. หรือว่าจนกว่าของจะหมด เข้าซอยสีลม 3 ( ซอยพิพัฒน์) ราว 150 เมตร ร้านอยู่ทางขวามือ ตรงข้ามเซเว่นอีเลฟเว่น

อันดับ 7 บัวลอยไข่เค็ม พาเพลิน  เปิด 12.00-20.00 น. ร้านอยู่ในตรอกท่าเรือคลองสาน เข้าไปประมาณ 100 เมตร ร้านอยู่ขวามือ

อันดับ 6 เป็ดย่างรมควัน ตลาดข้างวัดคณิกาผล  ปิดตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป แต่ต้องไปแต่เช้า เพราะ บางวันขายไม่ถึงชั้วโมงก็หมดแล้ว ร้านอยู่ในตลาดข้างวัดคณิกาผล เยื้องกับ สน.พลับพลาไชย 1 เปิดทุกวัน

อันดบ 5 โคขุน คุณทอง โพนยางคำ  เปิด 11.30-24.00 น. ร้านอยู่ากซอยนวลจันทร์ 21

อันดับ 4 ข้าวผัดปู เมืองทอง 1 เปิด 16.00-22.00 น. ช่วง 18.00-19.30 น. คนจะเยอะมากเรียกได้ว่าโต๊ะ 60 ตัว แทบเต็มทุกโต๊ะ เข้าซอยแจ้งวัฒนะ 14 ตรงไปประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ

อันดับ 3 นางเล็ดน้ำแตงโม บางขุนนนท์  เปิด 10.30-15.00 น. ร้านอยู่ริมถนน ระหว่างบางขุนนนท์ซอย 19 และซอย 21 หน้าร้านแฟมิลี่มาร์ท ตรงข้ามองค์การสวนยาง

อันดับ 2 ก๋วยเตี๋ยวนายเป็ด  เปิด 10.00-14.00 น. ถ้าไปช้าอาจจะปิดร้านไปก่อน เพราะ ขายหมดเร็ว ร้านอยู่ในซอยบางขุนนนท์ 29

อันดับ 1 สมศัดิ์ กุ้งและปูอบวุ้นเส้น  เปิด 17.00-22.00 น. ถ้ามาช่วงหลัง 1 ทุ่มอาจจะต้องรอ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ร้านอยู่ปากซอยเจริญรัถ 1

ครบ สิบที่แล้วอย่าลืม เพื่อเวลาไปรอล่วงหน้า เยอะๆ นะครับ เราขอเตือน ฮาา ^^

อยากเห็นหน้า ซ้อ7 ป่าว? จัดปาย ( คนนี้เหรอครับ เนี่ย ;)

เว็บไซต์ www.bbberry.net     ซ้อเจ็ด เป็นนามปากกาของนักเขียนผู้ไม่ประสงค์จะออกนามจริง เขียนบทความในผู้จัดการออนไลน์เกี่ยว กับดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียง โดยมีข้อมูลจากวงใน หรือข้อมูลที่สำคัญ ลักษณะการเขียน ผู้เขียนจะไม่กล่าวชื่อดาราคนนั้นว่าเป็นใครแต่จะพูดเป็นคำใบ้ต่างๆ แทน เช่น คุณป้าหน้าบาน น้องตาโตเสียงแผด นางเอกหน้าคม เป็นต้น และเปิดให้มีผู้เข้าไปอ่านเป็นจำนวนมากและแสดงความคิดเห็นต่างๆกันไป นอกจากข่าวในเว็บออนไลน์แล้ว คอลัมน์ซ้อเจ็ดมีบริการรับฟังข่าวผ่านโทรศัพท์มือถือ ประวัติ         ในปี พ.ศ. 2543 ในขณะนั้นผู้จัดการออนไลน์มียอดคนอ่านเพียง 3,000 คนต่อวัน (อยู่อันดับ 40 ในตอนนั้น) สนธิ ลิ้มทองกุล มีคำสั่งมายังผู้ที่ใช้นามปากกาว่า ซ้อเจ็ด เปิดคอลัมน์ซุบซิบเพื่อดึงคนอ่านให้ได้หลักหมื่น โดยนามปากกา “ซ้อเจ็ด” เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่มีการอุ้มฆ่าของตระกูลซอสภูเขาทอง ซึ่งคนที่ถูกอุ้มคนสุดท้ายเป็นซ้อคนที่เจ็ด โดยการเขียนจะอัปโหลดเรื่องราวใหม่ๆ ทุกเย็นวันศุกร์ สุดสัปดาห์ แต่พอเกิดเหตุการณ์ช่วงก่อนปฏิวัติ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่มีการข่มขู่จะปิดผู้จัดการออนไลน์ จึงทำให้ซ้อเจ็ดหายไปชั่วคราว        หลังจากนั้น 2 ปี จึงกลับมาพร้อมเปลี่ย นชื่อจาก คอลัมน์ “บีบสิว” มาเป็น “บีบสิวหัวช้าง” โดยเปลี่ยนมาอัปเดตเรื่องใหม่ทุกเย็นวันจันทร์แทน โดยตีแผ่เรื่องราว ของนักการเมืองและครอบครัว ดารา นักร้อง คาแร็กเตอร์ของซ้อเจ็ดที่ถูกสร้างคือเป็น“สตรีวัยกลางคน อายุ 45 ปี ผมหยักศก อกอิ่ม รูปร่างสมส่วน สุขภาพดี หน้าตาสดใส ไม่นิยมการแต่งหน้า เป็นภริยาท่านทูตต่างชาติ รสนิยมดี การศึกษาดี เป็นคนสู่รู้ มีอารมณ์ขัน ตลกร้าย ตรงไปตรงมา กระนั่นแม้จะปากคอจัดจ้าน ในคว ามดิบนั้นก็มีมโนธรรม มีคุณธรรมแฝงอยู่ในบางเรื่อง ผลงานชิ้นแรกๆ ที่สร้างชื่อให้ซ้อเจ็ด เช่นเรื่อง เกย์ ชู้ สำส่อน มั่วยา ขายตัว รวมไปถึงเรื่องราวใหญ่โตอย่าง นักการเมืองโกงกินชา โดยเขียนในรูปแบบสาธยายแบบเผ็ดร้อน รุนแรง ด้วยการบรรยายโวหาร กล่าวถึงคนอื่นโดยไม่ใช่อักษรย่อ มีการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ซึ่งเป็นการสร้างจุดขายที่แตกต่างจากข่าวซุบซิบยุคเก่า รวมถึงการบัญญัติศัพท์ใหม่ๆ เช่น ซินาอ้า แม้จะเป็นข่าวที่มีลักษณะแบบปากต่อปาก แต่ซ้อเจ็ดก็ต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบก่อนเขียนทุกครั้ง 3-4 รอบ รวมถึงความถูกต้องในการใช้ภาษา และการดูตัวบทกฎหมายว่าจะถูกฟ้องหรือไม่ “สิ่งที่เขียนมี Fact 70% และ Fansy อีก 30% เพื่อให้เรื่องราวมีสีสันด้วยภาษาที่น่าดึงดูด การหาข่าว  ในช่วงปีแรก ซ้อเจ็ดเขียนข่าวทุกข่าวด้วยตัวเอง จากนั้นเริ่มมีทีมเข้ามาช่วย จาก 3 คนเป็น 5 คน ซึ่งซ้อเจ็ดจะเป็นคนกลั่นกรองและเรียบเรียงสำนวนด้วยตัวเอง เพื่อให้งานเขียนดูมีตรรกะมากขึ้น การเก็บข้อมูล นำมาจากตามวงเหล้า ตามผับ ตามบาร์ “เด็กเที่ยว” และ “สาวไซด์ไลน์” ที่มีประสบการณ์ตรง บางครั้งข้อมูลเชิงลึกก็มีการแลกกับเงินค่าเรื่อง 2,500 บาท ก็มี อิทธิพล      อิทธิพลในการเขียนของซ้อเจ็ด คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และยาขอบ ที่มีการเขียนเรื่องโดยใช้ กลยุทธ์ร้อยเรียงเหมือนเรื่องสั้น เพื่อให้อ่านสนุก น่าติดตาม ซ้อเจ็ดยังส่งผลต่ออิทธิพลให้เกิดคอลัมน์ประเภทซุบซิบ ในนิตยสารบันเทิงตามมา ซ้อเจ็ดวิจารณ์ไว้ว่า "บางเล่มใช้คำแรงจนดูโง่เกินไป เราแรงจริง เราถ่อย เราดิบ แต่เราไม่ต่ำ ไม่โลว์เทสต์ เราเป็นเมียท่านทูตนะ อย่างน้อยก็จบเอกชนสตรีชั้นนำ (หัวเราะ)" และซ้อเจ็ดเล่าว่า "เกินครึ่งของหัวหน้าข่าวบันเทิงในนิตยสารแนวนี้เคยเป็นลูกน้องซ้อเจ็ดมา ก่อน ความนิยม          ปัจจุบัน (ปี 2553) จากการจัดอันดับของทรูฮิตพบว่า เว็บผู้จัดการ อยู่อันดับที่ 4 ซึ่งคอลัมน์ซ้ อเจ็ดเป็นส่วนสำคัญของผู้จัดการออนไลน์ แต่ละเรื่องมีจำนวนคนอ่านผ่านเว็บไซต์ของผู้จัดการออนไลน์ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ครั้ง ขณะที่บางเรื่องพุ่งขึ้นสูงเกิน 100,000 ครั้ง (ไม่นับรวมการอ่านจากเว็บไซต์อื่นที่นำไปโพสต์ต่ออีกที) และยอดการค้นหาชื่อ ซ้อเจ็ด จากกูเกิล มีสูงถึง 100,000 รายการ ส่วนคอลัมน์ของซ้อเจ็ดเองเป็นตัวอย่างของเว็บบอร์ดที่มีการตอบกระทู้มากที่ สุด ตั้งแต่หลักหลายร้อยจนทะลุหลักพัน ในขณะที่ซ้อเจ็ดเป็นที่นิยมของแ ฟนคลับ ในทางตรงกันข้ามก็มีศัตรู คู่กรณีเช่นกัน ถึงกับมีพระเอกคาสโนวาประกาศจะล่าซ้อเจ็ด ด้วยค่าหัว 70 ล้านบาท        รูปแบบข่าวที่มีลักษณะเป็นข่าวเมาท์ ข่าวซุบซิบ ซึ่งซ้อเจ็ดมีชื่อเสียงความโด่งดังจากเรื่องงานเขียนถูกต้องและเป็นจริง อย่างกรณีนางเอกเบนโล ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง และด้วยเหตุที่ซ้อเจ็ด กล้า ที่จะฉะกับดารา ไฮโซ นักการเมือง ทำให้ได้รับความนิยมจากแฟนคลับ อีกทั้ง “ความน่าเชื่อถือ” ก็ เป็นส่วนหนึ่งของความนิยมนี้        ความสนใจของตัวซ้อเจ็ด กับผู้อ่าน ตั้งข้อสังเกตจากความเห็นที่โพสต์ไว้ในเว็บไซต์และความสงสัยใคร่รู้ของคนชอบ ท่องเว็บฯ ซึ่งมักมีคำถามประเภท 'ซ้อเจ็ด เป็นใคร? ชายหรือหญิง? เกย์หรือกะเทย? ซึ่งเกิดขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ และมีเสียงคาดเดาว่า ซ้อเจ็ดคือใคร เดากันไปบ้างว่า คือ 'สันติ เศวตวิมล< /FONT>' บ้างก็ว่าเป็น 'ดร. เสรี วงมณฑา' หรือบอกว่าเป็น '< /FONT>ต้อย แอคเนอร์' ก็มี เว็บไซต์ www.bbberry.net ขอบคุณ วิกิพีเดียร์ไทย

อยากเห็นหน้า ซ้อเจ็ด อะป่าว

---------------------------------------------------------------------- 

ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ผมมีร่ม วิเศษมานำเสนอ ( ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ทุกท่าน ;)

เคยนึกสงสัยว่าทำไมความห่วงใยถึงแบ่งให้แต่ละคนไม่เท่ากัน

เขาคงแบ่งให้เราห่วงคนนี้ แล้วคนนี้ก็ห่วงอีกคน ห่วงอีกคนต่อไป

แบ่งความห่วงใยต่อกันไปเรื่อยๆ ..สุดท้ายก็วนมาครบทุกคนเอง

ใครช่วยกางร่มให้ใครไว้ ก็ช่วยกันฝ่าพายุไปให้ถึงที่สุดเนอะ

Cr :  elrion  in   Daily-life