ด้วยเหตุนี้ กระปุกดอทคอม จึงได้ทำการรวบรวมเอา 22 บุคคลดังจากข่าว มารายงานในช่วงส่งท้ายปีกันอีกครั้ง มาดูกันว่า ใคร จะติดโผกันมาบ้าง และเขาดังมาจากประเด็นอะไร ไปดูกันเลย
1. การุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง กับหลายเรื่องที่คนสนใจ
หากกล่าวถึงชื่อของ การุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทยคนนี้ หลายคนคงนึกถึงข่าวที่ค่อนไปในทางเสีย ๆ หาย ๆ ซะส่วนใหญ่ เนื่องจากปีนี้ เก่ง การุณ กลายเป็นกระแสฮอตจากสถานการณ์น้ำท่วมเขตดอนเมือง เริ่มจากที่มีข่าวออกมาว่า นายอำเภอปากเกร็ดออกมาแฉว่า นายการุณ พร้อมชาวบ้านเขตดอนเมืองนำรถแบ็กโฮเข้ารื้อคันดินที่ชาวปากเกร็ดได้สร้างไว้แนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองประปา ในฝั่งปากเกร็ด หลังจากที่เพิ่งเจรจากันมาก่อนหน้านี้ จนหวิดเกิดเหตุวิวาทกันใหญ่โต
จากนั้นผ่านมาอีกไม่ถึงเดือน นายการุณ ก็หนีไม่พ้นเรื่องชกต่อย หลังมีข่าวว่านายการุณโดนชาวบ้านต่อยปากแตก จนต้องเย็บถึง 5 เข็ม ซึ่งสาเหตุมาจากการที่นายการุณ ขี่เจ็ทสกีเร็วมาก จนทำให้เกิดคลื่นกระแทกเรือของชาวบ้านจนพลิกคว่ำนั่นเอง และไม่นานชื่อของนายการุณ ก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่า นายการุณ โดน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถีบก้น แต่เขาก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ไม่นานก็มีมือดีแพร่คลิปนายการุณ ด่าบุคคลในวิดีโอด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ซึ่งคาดว่าเป็นคลิปวันที่ถูกมัลลิกาถีบ จนกลายเป็นประเด็นอื้อฉาวที่พูดถึงกันในอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวางทีเดียว.... เฮ้อ ปีนี้คงไม่ใช่ปีที่ดีของ ส.ส.กล้ามโตคนนี้เท่าไหร่หรอกนะ
2. มัลลิกา บุญมีตระกูล จากอดีตผู้สื่อข่าวสู่รองโฆษกฝีปากกล้า
ถ้าพูดถึง เก่ง การุณ ก็ต้องมีชื่อของ มัลลิกา บุญมีตระกูล ตามมาติด ๆ เพราะ ส.ส.หญิงใจกล้าแห่งพรรคประชาธิปัตย์คนนี้ ไม่เพียงจะออกมาประกาศว่า ถีบก้น เก่ง การุณ เท่านั้น หากแต่เธอยังทวีตข้อความแรง ๆ จนเป็นประเด็นถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในทำนองว่า ครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งใจทำให้น้ำท่วมเพื่อจะได้กู้เงินฟื้นฟู 9 แสนล้าน ที่จะเน้นก่อสร้างเมกะมหาโปรเจกต์เร่งรัดใช่หรือไม่ และอีกคำถามมากมายที่เป็นการเสียดสีการแก้ปัญหาน้ำท่วมของสองพี่น้องตระกูลชินวัตร ทำนองว่ามีสมองหรือไม่!?
นอกจากนี้ มัลลิกา บุญมีตระกูล ยังออกมาแฉเรื่องที่ กระทรวงไอซีที เป็นผู้แต่งตั้งให้แนวร่วม นปช.ผู้โพสต์หมิ่นเบื้องสูงที่เคยถูกจับ มาร่วมเป็นคณะทำงานสื่อออนไลน์ พร้อมทั้งประกาศกร้าวว่า ถ้ากระทรวงไอซีทีจัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้ ก็ใช้ยาแรง ปิดโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ ฯลฯ ก่อให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์มากมาย ... สรุปก็คือ ปีนี้ชื่อของ ส.ส.หญิงคนนี้มาแรงจริง ๆ!
3. ต๊ะ ตระการตา กมลวิศิษฎ์ ลูกสาวสุดสวยช่วยคุณพ่อชูวิทย์หาเสียง
ในบรรดานักการเมืองไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องฝีปากที่จัดจ้าน ชื่อของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ คงลอยมาให้เห็นเป็นอันดับต้น ๆ และเมื่อครั้งที่มีการเสียงเลือกตั้ง นายชูวิทย์ ก็ได้งัดลีลาการหาเสียงที่แปลก แหวกแนว สนุก ๆ ไม่เหมือนใคร แถมยังพาลูกสาว ลูกชาย (หน้าตาดี) มาช่วยลงพื้นที่อีกด้วยแน่ะ
และการลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนั้น ก็เหมือนเป็นการเปิดตัวลูกสาวคนสวยแห่งบ้านกมลวิศิษฏ์ไปในตัว เพราะน้องต๊ะ ตระการตา ได้มาเดินเคียงคู่ช่วยคุณพ่อหาเสียง ได้ใจชาวบ้านร้านตลาดที่ได้เห็นใบหน้าอันน่ารัก ๆ พร้อมรอยยิ้มเป็นกันเองของสาวต๊ะไปเต็ม ๆ อีกทั้งในบรรดาลูกทั้ง 4 คน น้องต๊ะเป็นที่ถูกจับตามองมาก เพราะเป็นลูกสาวคนเดียว หน้าตาสะสวย ทั้งยังโด่งดังในโลกออนไลน์เสียด้วย จึงไม่แปลกที่คุณพ่อจะทั้งรักทั้งหวงลูกสาวคนนี้มากเป็นพิเศษ...ก็แหม ถ้ามีลูกสาวอย่างน้องต๊ะนี่ คนเป็นพ่อแม่คงชื่นใจน่าดู ก็เพราะลูกสาวคนนี้น่ารัก แถมยังช่วยงานพ่อในการหาเสียงแบบลืมเหนื่อยซะขนาดนี้ ใครไม่รักก็แย่แล้ว..
4. ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ลูกเขยทักษิณ ชินวัตร
ยังไม่พ้นเรื่องราวของนักการเมือง แต่คราวนี้เป็นเรื่องของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังจะมีลูกเขยคนแรก ชายหนุ่มคนนี้จึงกลายเป็นคนที่ใครหลายคนอยากรู้จักมากที่สุดคนหนึ่งไปทันที เพราะหลายคนอยากรู้จริง ๆ ว่า หนุ่มผู้โชคดีที่จะได้เป็นเขยคนแรกของอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นใครมาจากไหนกัน... ซึ่งชายหนุ่มคนนี้นั้นมีชื่อเสียงเรียงนามว่า ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ หรือ พงศ์ หนุ่มโสดรูปหล่อวัย 31 ปี ที่เคยถูกโหวตให้เป็น "ขวัญใจไฮโซ" ในนิตยสารคลีโอเมื่อปี 2007 โดยหนุ่มพงศ์เป็นทายาทนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าย่านโบ๊เบ๊ ซึ่งก็ได้ต่อยอดธุรกิจของที่บ้านด้วยการทำธุรกิจเปิดเว็บไซต์ขายเสื้อผ้ามานานกว่า 5 ปี จนเว็บไซต์โด่งดังกลายเป็นที่รู้จักของลูกค้าสาว ๆ
นอกจากนี้ หนุ่มพงศ์ก็ยังเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของคอนโดมิเนียมสุดหรูถึงสองแห่งในย่านสุขุมวิทอีกด้วย ส่วนเส้นทางรักของหนุ่มพงศ์และสาวเอม มาจากการเรียนคลาสเดียวกัน จึงได้พูดคุยคบหากันเรื่อยมา กระทั่งความรักสุกงอม ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจจะจูงมือเข้าประตูวิวาห์ และได้ทำการจัดงานหมั้นสุดอลังการในวันฤกษ์ดี วันที่ 11 เดือน 11 ปี 11 ไปเรียบร้อย
5. แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ฉายาสาวซีวิค
จากคดีครึกโครมข้ามปี กรณีอุบัติเหตุโทลล์เวย์ที่รถตู้โดยสาร มธ.รังสิต-จตุจักร ถูกรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ซึ่งขับมาด้วยความเร็วชนท้ายก่อนรถเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งไปชนขอบปูนข้างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 8 ศพ และบาดเจ็บ อีก 7 ราย ชื่อของนางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ แพรวา วัยอายุ 16 ปี ก็กลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาทันทีในฐานะผู้ซิ่งซีวิคคันนั้น
แต่ที่เป็นประเด็นร้อนที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็เห็นจะเป็นภาพที่เธอยืนกดโทรศัพท์หลังเกิดเหตุ ตลอดจนประเด็นเรื่องใบขับขี่ เพราะเธออายุเพียงแค่ 16 ปี แต่กลับขับรถได้ และอีกประเด็นสำคัญที่สร้างกระแสให้คนในสังคมมากมายตั้งคำถามว่า การสูญเสียครั้งนี้จะเป็นการสูญเปล่าหรือไม่ ด้วยนามสกุลของเธอที่อาจทำให้เธอไม่ต้องรับผิดจากสิ่งที่เธอกระทำ
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวตระกูลดังของแพรวา ก็ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ พร้อมกับเปิดเผยถึงสภาพจิตใจของแพรวาว่าบอบช้ำแค่ไหน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกให้แพรวาไปรับทราบข้อกล่าวหาและจะทำการดำเนินคดีต่อไป
6. น้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ เด็กหญิงหัวใจแกร่ง
เชื่อว่าหลายคนต้องได้ยินข่าวของสาวน้อยผู้เข้มแข็งที่เธอไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้เธอจะต้องไปประสบเคราะห์ร้ายถึงต่างแดน ...ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึง น้องธันย์ นักเรียนไทยที่ไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้เกิดอุบัติเหตุ พลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้า ทำให้น้องธันย์ต้องถูกตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง เชื่อเลยว่า หลายคนเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้า คงขวัญเสีย หมดกำลังใจในชีวิตไปเลยทีเดียว แต่สิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดกับสาวน้อยหัวใจแกร่งคนนี้ เพราะหลังจากนั้น เธอเดินทางกลับมาประเทศไทย และได้มาเปิดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
โดยเธอบอกว่า กำลังใจต้องเริ่มจากตนเองเป็นอันดับแรก แต่ถ้าเราไม่สร้างกำลังใจให้กับตนเองให้ลุกขึ้นสู้ กำลังใจไหน ๆ ก็ไม่ช่วยให้เราเดินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะสูญเสียขาไป แต่อย่างน้อย เราก็มีสิ่งทดแทน นั้นก็คือขาเทียม และเธอยังบอกอีกว่า ถึงแม้เธอจะได้ขาเทียมที่ดีที่สุดในโลกมา แต่ถ้าเธอไม่พยายามฝึกร่างกายตนเองให้แข็งแรง ก็ไม่สามารถเดินได้แน่นอน ...ต้องบอกเลยว่า กำลังใจของเธอคนนี้น่าชื่นชมและเอาเป็นตัวอย่างจริง ๆ แม้ร่างกายพิการแต่หัวใจสู้เกินร้อย
7. น้องกาว สโรชา เนียมบุญนำ นักเรียนไทยผู้เคราะห์ร้ายป่วยเสียชีวิตในต่างแดน
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นกับนักเรียนไทยในต่างแดน ซึ่งเป็นกระแสที่ชาวสังคมออนไลน์พูดถึงเป็นอย่างมาก จากกรณีที่น้องกาว สโรชา เนียมบุญนำ นักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งไปโครงการ Work and Travel ที่เมือง Galveston รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา น้องกาวกลับมีอาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดท้อง มีน้ำมูก ซึ่งเธอคิดว่าเป็นแค่เพียงไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น แต่ต่อมาอาการของน้องกาวกลับทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งช็อกหมดสติ เพื่อน ๆ ต้องช่วยกันนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลก่อนที่แพทย์ที่สหรัฐอเมริกาได้วินิจฉัยว่า น้องกาว ป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีเชื้อแบคทีเรียขึ้นสมอง และโอกาสรอดชีวิตมีเพียงแค่ 5% เท่านั้น
จากนั้น ครอบครัวและเพื่อน ๆ ของน้องกาวจึงได้เปิดหน้าเฟซบุ๊ก "Gao's Update!! เราจะพากาวกลับไทยนะ" วอนผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือให้น้องกาวได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง แต่หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่น้องกาวเดินทางไปเห็นสภาพลูกสาว จึงไม่ต้องการจะยื้อชีวิตลูกสาวเอาไว้ด้วยความทรมานอีกต่อไป โดยยอมให้คุณหมอถอดเครื่องช่วยหายใจออก เพื่อให้น้องกาวจากไปอย่างสงบ เพื่อน ๆ ของน้องกาว ตลอดจนชาวสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ต่างร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปในครั้งนี้ด้วยความโศกเศร้า
8. หมอมุก พต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ต้องติดตามกันวันต่อวันเป็นระยะเวลาร่วมกว่าหนึ่งเดือนเลยทีเดียว สำหรับข่าวหมอมุก แพทย์ทหารโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าฯ ที่ถูกรถคันหนึ่งขับพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนตัวหมอมุกกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตรบริเวณหน้าคลินิกเสาวรส ซึ่งเป็นหน้าบ้านและเป็นคลินิกของหมอมุก ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีเลือดคั่งในสมอง จนต้องเข้ารับการผ่าตัด นอนพักฟื้นในไอซียูเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่า รถคันดังกล่าว เป็นรถของทหารสังกัดกองทัพบก ซึ่งคนขับเป็นนายทหารคนหนึ่ง จนต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ต่อมา พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยอ้างว่าเป็นคนขับรถชนหมอมุกเอง แต่ก็ให้การในทำนองว่า เกิดการโต้เถียงกัน และหมอมุกเป็นคนกระโดดให้รถชนเอง อีกทั้งมีกระแสออกมาว่าคนขับรถคนนั้นไม่ใช่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นลูกสาวเลือดร้อนต่างหากที่เป็นคนขับชน
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ตำรวจสอบสวนดำเนินคดีนี้ อาการหมกมุกก็ดีวันดีขึ้นอย่างปาฏิหาริย์ โดยมีคุณแม่เฝ้าอยู่ไม่ห่าง พร้อมกำลังใจมากมายจากคนใกล้ชิด จนในที่สุดหมอมุกก็สามารถกลับมาเดินได้และพูดคุยโต้ตอบรู้เรื่องอีกครั้ง และคดีก็จบลงโดยการแจ้งข้อหาสั่งฟ้อง พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ในข้อหาพยายามฆ่า เป็นอันปิดฉากคดีที่สะเทือนอารมณ์คนไทยไปอีกหนึ่งคดี
9. หมอกวาง พ.ญ.ภิภัทรา สายโลหิต เหยื่อโจรคลั่งยาบ้า จี๋รถเก๋ง
ปีนี้คงไม่ใช่ข่าวดีของวงการแพทย์ซักเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวหมอมุกโดนรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพักฟื้นยาว มาคราวนี้ก็เป็น หมอกวาง พ.ญ.ภิภัทรา สายโลหิต แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี ที่เป็นเหยื่อโจรเมายาบ้าคลั่ง ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต ก่อนจะแย่งปืนตำรวจขับรถไปเฉี่ยวชนกับรถแท็กซี่ และรถของหมอกวาง อีกทั้งยังลงมายิงคนขับรถแท็กซี่จนเสียชีวิต และยิงหมอกวางจนได้รับบาดเจ็บ มีกระสุนฝังอยู่ในร่างกายถึง 3 นัด
แต่หลังจากนั้นอาการของหมอกวางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะเปิดเผยกับสื่อมวลชนเล่าถึงนาทีระทึกในขณะที่เธออยู่ในช่วงเกิดเหตุที่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืน บังคับไล่มารดาเธอลงจากรถ ก่อนจะบังคับให้เธอก้มหัวลง และใช้ปืนจี้หัวเธอตลอดเวลา ในตอนนั้นเธอยอมรับว่า เธอกลัวมาก และยอมรับว่าถึงแม้สภาพร่างกายเธอดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น
ต่อมาก็มีเรื่องพอให้เธอได้ชื่นใจบ้าง เมื่อทางผู้ช่วยผบ.ตร.ได้เป็นตัวแทนมอบรถยนต์คันใหม่ให้หมอกวางแทนคันเก่าที่ถูกยิงเสียหายจากการวิสามัญหนุ่มคลั่งเมายาบ้านั้น จากข่าวการจี้ฆ่าอย่างอุกอาจกลางใจเมืองเช่นนี้ ทำให้หลายฝ่ายหันมาตระหนักถึงมาตรการการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
10 . ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้กล้าในภารกิจกู้ภัย ฮ.ตก
จากเหตุการณ์ที่หลายคนเชื่อว่าคงเป็นอาถรรพ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 3 ลำ จึงเกิดภารกิจการติดตามและค้นหา ที่เหล่าทีมกู้ภัยต้องเร่งบุกป่าฝ่าดงรกชัฏ เข้าไปกู้ภัยเฮลิคอปเตอร์ตกด้วยความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว ภารกิจช่วยชีวิต จะกลับกลายเป็น ภารกิจพาเพื่อนกลับบ้าน
และ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก็คือ ชื่อของชายหัวหน้าทีมกู้ภัยเหล่านั้น ที่เมื่อทราบข่าวเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ตกกลางป่า เขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ฝ่าเมฆหมอกที่มืดทึบไปตรวจดูเหตุการณ์ด้วยตัวเองทันทีถึง 2 ครั้ง ด้วยหัวใจผู้กล้าโดยไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นเบื้องหน้า และแม้ภารกิจจะหนักหนา ยากลำบาก และต้องฝันฝ่าอุปสรรคสู้กับ "ธรรมชาติ" ที่ไม่ค่อยจะอำนวยให้ภารกิจกู้ภัยนี้ซักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังคงก้าวต่อไปด้วยหัวใจที่ต้องการช่วยพี่น้องคนไทยได้กลับบ้าน แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่มีแล้วก็ตาม น่ายกย่องหัวใจชายผู้กล้าคนนี้จริง ๆ
11. เบลล์ นันทิตา ฆัมภิรานนท์ สาว 2 เสียงจาก Thailand's Got Talent
เบลล์ นันทิตา คือ สาว (?) มากความสามารถที่ทำเอาหลายคนต้องอึ้ง หลังได้ดูการแสดงของเธอคนนี้ในรายการ Thailand's Got Talent ใครจะเชื่อล่ะว่าสาวหน้าตาดี ที่มาพร้อมเสียงเล็ก ๆ ในเพลง อยากรู้แต่ไม่อยากถาม ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงเพลงได้ดีจนผู้ชมเคลิ้ม แต่ทันใดนั้นเอง น้ำเสียงที่เปลี่ยนเข้าสู่เพลง Unloveable ของวงมายด์ ก็ทำให้คนดูต้องอึ้ง เมื่อเบลล์ นันทิตา กับน้ำเสียงผู้หญิงในตอนแรกได้เปลี่ยนเป็นเสียงทุ้มละมุนหูของชายหนุ่ม ซึ่งถ้าไม่ติดว่าภาพของ เบลล์ นันทิตา ที่ปรากฎอยู่หน้าจอคือหญิงสาว ก็คงคิดไปว่าเจ้าของเสียงนี้จะต้องเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีเอามาก ๆ เลยล่ะ แน่นอนว่างานนี้กรรมการทั้งสามให้เธอผ่านอย่างเป็นเอกฉันท์เลยทีเดียว
และไม่เพียงแต่จะดังในประเทศไทยเท่านั้น เพราะแฟน ๆ ชาวจีนทั้งหลายต่างก็เทใจให้ เบลล์ นันทิตา หลังจากได้ฟังเพลงที่สาวประเภทสองคนนี้ที่ได้ขับร้องในรายการ Thailand's Got Talent จนทำให้ยอดการเข้าชมคลิปของเธอทะลุหลักล้านไปแล้ว รวมไปถึงการที่คลิปการแสดงสดของ เบลล์ นันทิตา ไปติดอันดับ 1 ใน 100 คลิปยอดนิยมระดับโลกอย่างยูทูบไปอีกด้วย
จากความสามารถที่เปี่ยมล้นขนาดนี้ เธอจึงได้ออกซิงเกิ้ลเป็นของตัวเองครั้งแรกในเพลง เสียงที่เปลี่ยน ที่การันตีถึงความสามารถของเธอ ด้วยการร้อง 2 โทนเสียง 2 ความรู้สึก ที่ให้อารมณ์แตกต่าง ทั้งในแบบชายหนุ่ม นุ่ม ลึก และเสียงหวาน ใส ในแบบหญิงสาว อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
12. น้องจ๊ะ วงเทอร์โบ กับอาการ "คันหู! ไม่รู้เป็นอะไร"
ณ ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักเพลง "คันหู" ที่มาแรงแบบแรงไม่มีตกจริง ๆ ทั้งเรื่องของท่าเต้น เนื้อหาของเพลง และเสียงร้องที่ใครได้ยินต้องรีบหันควับมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นทันทีนอกจากนั้นแล้วยังแรงชนิดที่ว่าดันตัวสาวน้อยฟันเหล็กอย่าง "น้องจ๊ะ วงเทอร์โบ" ที่อายุอานามก็เพิ่ง 20 ปีให้โด่งดังได้เพียงชั่วข้ามคืน ..ดังไม่ดังคิดดูเอาง่าย ๆ เลยว่าสื่อแทบจะทุกแขนงต่างก็นำประเด็นคันหูไปพูดถึงกันอย่างมากมาย ที่สำคัญ สื่อต่างประเทศยังนำเรื่องราวของน้องจ๊ะ ไปทำข่าว แถมยังยกย่องให้เป็น "ผู้หญิงที่โด่งดังที่สุดในไทย" อีกด้วย
และด้วยความแรงของน้องจ๊ะกับเพลงคันหู ก็เลยมีรายการโทรทัศน์มากมายไปสัมภาษณ์น้องจ๊ะชนิดที่ว่าหาคิวว่างไม่ได้เลยด้วย และหนึ่งในรายการที่ไปสัมภาษณ์น้องจ๊ะและเกิดเป็นประเด็นทางสังคมขึ้นมาอีกก็คือรายการ "รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย" ที่สัมภาษณ์แบบแรงจริงแรงจัง ถึงขั้นที่ว่ามีประเด็นให้ถกเถียงกันในโลกออนไลน์อยู่นานหลายวันเลยทีเดียว
มาวันนี้ น้องจ๊ะ มีซิงเกิ้ลเพลงใหม่เป็นของตัวเองแล้ว ด้วยเพลงที่มีชื่อว่า ''อย่าเอาหูหนี (หยุดฟังฉันก่อน)'' ที่แม้ว่าหลายคน ๆ ที่ได้ยินชื่อเพลงพากันตกอกตกใจ เพราะเกรงว่า จะเป็นเพลงที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม แต่งานนี้น้องจ๊ะ ออกมารับประกันว่า เพลงดังกล่าวเป็นเพลงช้าซึ้ง ๆ ฟังสบาย ๆ ไม่มีเนื้อหาที่ออกไปทางล่อแหลมอย่างแน่นอน..
13. ศศิน เฉลิมลาภ ผู้อธิบายสถานการณ์น้ำท่วมเข้าใจง่าย
สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปีนี้นับเป็นข่าวใหญ่แห่งปีแล้ว แต่ผู้ที่สามารถอธิบายถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ฟังเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนได้ใจผู้รับข่าวสารอย่างเราไปเต็ม ๆ คงต้องมีชื่อของ ศศิน เฉลิมลาภ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ...เขากลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาทันทีจากสังคมออนไลน์ เพราะเขาคือหนุ่มมาดเข้มที่อยู่ในคลิปวิดีโอวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งหลายคนได้ติดตามการอธิบายสถานการณ์น้ำท่วมของเขา ด้วยความที่มีการอธิบายถึงข้อมูล และแนะนำถึงการเตรียมตัว ป้องกันในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามข่าว
จุดเด่นของ ศศิน เฉลิมลาภ คือ การพูดที่ฟังแล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถอธิบายเหตุการณ์เครียด ๆ ออกมาให้เข้าใจง่าย แถมยังมีประโยคเด็ดเหน็บแนมทิ้งท้ายตลอด เป็นที่ถูกอกถูกใจหนุ่มสาวโลกออนไลน์ เรียกได้ว่า ถ้าตอนนี้ใครไม่รู้จัก หรือไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ศศิน เฉลิมลาภ เจ้าของคลิป ถือว่า เอ้าท์ไปเลยล่ะ
14. รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ นักวิชาการผู้วิเคราะห์น้ำท่วมรายวัน
คนดังจากข่าวคนต่อมานี้ ก็อยู่ในแวดวงนักวิชาการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งถ้าใครที่ติดตามข่าวน้ำท่วมทุกวัน ต้องได้ยินชื่อของ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร และผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นหนึ่งในวิศวกรผู้เชี่ยวชาญภัยพิบัติอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ได้ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
แต่ที่เป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงอย่างมาก ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่นักวิชาการผู้นี้เคยออกมาวิเคราะห์ภาวะการเกิดน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และในที่สุด เหตุการณ์น้ำท่วมตามที่เขาเคยวิเคราะห์ไว้ก็มาเกิดขึ้นจริงในปีนี้ แทบจะไม่ผิดเพี้ยน จึงทำให้ชื่อของ ดร.เสรี เป็นที่รู้จักขึ้นมาทันใด
และอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนได้รู้จักกับชื่อของ รศ.ดร.เสรี กันมากขึ้นคือการออกมาวิเคราะห์สถานการณ์ภัยน้
22 บุคคลดัง เป็นที่สนใจของประชาชน จากข่าวเด่น ในรอบปี 2554
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ (Find me on)