เรื่องแปลก ใหม่ น่าสนใจ ข่าวสาร บันเทิง สนุก เซ็กซี่ sexy ที่คุณ อยากรู้ ที่นี่ครับ ^^
เที่ยวอียิปต์บุกแดนฟาโรห์ ดินแดนแห่งอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างน่าชื่นชม
สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (Arab Republic of Egypt) หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า อียิปต์ (Egypt) ดินแดนแห่งนี้มีอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างน่าชื่นชมเป็นอย่างมากค่ะ ประเทศนี้มีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมโบราณ รวมถึงอนุสาวรีย์โบราณที่น่าตื่นตาที่สุดในโลก ได้แก่ พีระมิด อารามคาร์นัค และหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ในปัจจุบัน อียิปต์ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโลกอาหรับ
เมืองเมมฟิส ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญ ในการรวมอียิปต์บนและอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียวโดยกษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ที่นี่ท่านจะได้ชม รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ด้วยหินอลาบาสเตอร์ของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ฝีมือการแกะสลักเป็นเยี่ยม
ระหว่างทางท่านจะได้เห็นตัวฐานรากของสถานที่โบราณ และรูปแกะสลักจากหินที่ยังหลงเหลืออยู่ในระดับพื้นดิน อีกทั้งมีต้นอินทผาลัมขึ้นสวยงามเป็นทิวแถว
เมืองซัคคาร่า ชม ปีรามิดขั้นบันได Step Pyramid เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของ กษัตริย์ซอเซอร์ และเป็นต้นแบบของ ปีรามิดในยุคต่อมา ท่านจะได้ทราบเรื่องของปีรามิดตั้งแต่ผู้สร้างไปจนถึงวิธีการสร้าง การตัดหินและอื่นๆ อีกนานับประการที่น่าพิศวง
“มหาปีรามิดกีซ่า Giza” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณ สร้างขึ้นเพื่อฝังพระศพของพระองค์เอง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้นนานถึง 30 ปี สร้างจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก โดยหินแต่ละก้อน จะถูกนำมาวางเรียงชิดติดกันจนแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน
“สฟิงซ์ Sphinx” ซึ่งแกะสลักจากเนินหินธรรมชาติ มีส่วนหัวเป็นรูปพระพักตร์ของฟาโรห์และมีลำตัวเป็นสิงโต
เมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่า ราคอนดาห์ โดยเมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 2,300 กว่าปีก่อน พระเจ้า อเล็กซานเดอร์มหาราชเดินทางมาพบ จึงให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์
นอกจากนี้เมืองอเล็กซานเดรีย ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของ พระนางคลีโอพัตรา และ จอมทัพผู้กล้าแห่งโรมัน มาร์ค แอนโทนี ซึ่งเรารู้จักกันดี และในปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก
ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย Alexandria Library สถานที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่มีนักโบราณคดีมาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตเป็นจากทั่วโลก
หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย Cata Comb สุสานของชาวโรมันในอดีต สุสานใต้ดินแห่งนี้มีสามชั้น ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับเตรียมการปลงศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่เก็บรักษา และชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่
เสาปอมเปย์ Pompey Pillar สิ่งสำคัญโบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร ปอมเปย์ เป็นชื่อเพื่อนสนิทของ จูเลียตซีซ่าร์ ซึ่งภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกัน และปอมเปย์ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ ก่อนถูกฆ่าตายและเล่าขานกันว่า จูเลียตซีซ่าร์ ได้ทำพิธีเผาศรีษะของปอมเปย์ที่เสานี้
นอกจากนั้นสถานที่นี้ในอดีตยังเคยมี อาโครโปลิส ซึ่งมีชื่อว่า เซราเปียม สร้างขึ้นเพื่อถวาย เทพเซราปิส ในสมัยของ ปโตเลมี แต่ในที่สุดถูกทำลายโดยพวกคริสเตียน ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาแบบกรีก ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น และ สฟิงซ์อีกสองตัว สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางกลับ กรุงไคโร
“มหาวิหารอาบูซิมเบล” ซึ่งประกอบด้วยวิหารใหญ่ของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 และวิหารของเนเฟอร์ตารี ซึ่งเป็นมเหสีที่รักของพระองค์ วิหารอาบูซิมเบลงดงามยิ่งใหญ่และมีชื่อก้องโลกเพราะเมื่อมีการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน ทำให้วิหาร 17 แห่งจมอยู่ใต้น้ำ จนองค์การยูเนสโก้ต้องมาช่วยยกให้พ้นน้ำและมหาวิหารอาบูซิมเบลก็ถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน 65 เมตร ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี สิ้นค่าใช้จ่าย 40 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภายในวิหารใหญ่มีห้องบูชาและมีรูปสลัก 4 องค์นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 พร้อมด้วยเทพเจ้าต่างๆ อีก 3 องค์ ทุกปีวันที่ 22 ก.พ. และวันที่ 22 ต.ค. ลำแสงแรกของพระอาทิตย์จะสาดส่องเข้าไปต้องรูปสลัก และว่ากันว่าวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันประสูติของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขณะที่วันที่ 22 ตุลาคม ตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการทางการคำนวณของชาวอียิปต์โบราณ
เมืองอัสวาน ชม เขื่อนยักษ์อัสวาน ซึ่งสร้างขวางกั้นแม่น้ำไนล์ทั้งสายให้กลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดยักษ์ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าให้ใช้ได้ทั้งประเทศอียิปต์ และชม เสาหินโอเบลิสก์ แกะสลักจากหน้าผาซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ เสาโอเบลิสก์นี้เป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นการบูชาแด่เทพ “อามุน-รา” หรือสุริยะเทพ
เมืองคอมออมโบ ชุมชนที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำไนล์ ระหว่างทางท่านจะผ่านแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญริมแม่น้ำไนล์ ชมวิหารของเทพเจ้าสององค์คือ เทพโซเบค เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีร่างเป็นมนุษย์แต่เศียรเป็นจระเข้และ เทพเจ้าฮาโรเอริส เทพเจ้าแห่งการแพทย์ วิหารนี้สร้างบนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำไนล์ อันงดงาม
เมืองเอ็ดฟู ชม วิหารเอ็ดฟู ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพเจ้าฮอรัส มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลักซอร์
ลักซอร์ เมืองหลวงเก่าของอาณาจักรอียิปต์โบราณที่เคยรุ่งเรืองเมื่อกว่า 5,000 ปีมาแล้ว ชม “วิหารลักซอร์” ซึ่งเป็นวิหารทรายเนื้อละเอียดที่ใหญ่มาก หน้าวิหารในสมัยโบราณเคยมีเสาโอเบลิสก์
ตั้งอยู่สองต้นเคียงกันแต่ปัจจุบันเสาต้นหนึ่งถูกนำไปตั้งไว้ที่จัตุรัสคองคอร์ดกรุงปารีส เพื่อเป็นของขวัญแด่กษัตริย์นโปเลียนของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1835 ในสมัยของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 พระองค์ได้โปรดให้สร้างอุทยานหน้าวิหารนี้และตกแต่งด้วยรูปประติมากรรมทำด้วยหินแกรนิต ควอร์ทไซต์
“หุบผากษัตริย์” ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 62 พระองค์ รวมทั้งฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงหลายพระองค์ก็ฝังที่นี่ เช่น ฟาโรห์หนุ่มตุตันคาเมน เป็นต้น
“วิหารฮัตเชพซุต” วิหารนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกคนสนิทชื่อ “เซเนมุท” เมื่อกว่า 3,500 ปีมาแล้ว เป็นสถานที่ประดิษฐานพระศพของ ฟาโรห์หญิงฮัตเชพซุต หรือที่รู้จักกันในนามของ “ราชินีหนวด” ซึ่งเป็นฟาโรห์หญิงพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ ซึ่งในสมัยของพระนางประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองมาก
วิหารคาร์นัค ซึ่งประกอบด้วยอาคารใหญ่โตมากมายหลายหลัง และเป็นวิหารโบราณที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการปฏิสังขรณ์จากฟาโรห์หลายพระองค์ สร้างขึ้นเพื่อบูชา ครอบครัวเทพเจ้า ทางเข้าวิหารมีรูปแกะสลักของสฟิงซ์เป็นแถวสองข้างทาง แต่เป็นสฟิงซ์ที่มีหัวเป็นแพะใช้เป็นทางเดินเชื่อมระหว่างวิหารลักซอร์ และวิหารคาร์นัคในอดีตกาลและที่สวยงามมากคือ Hypostyle Hall หรือ ห้องเสา ซึ่งประกอบไปด้วยเสาสูง 134 ต้น เรียงเป็นแถว 4 แถว สลักด้วยอักษรและภาพ
สุเหร่าโมฮัมหมัดอาลี ซึ่งเริ่มสร้างในปีค.ศ. 1830 และแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1848 เป็นสุเหร่าที่สร้างด้วยหินอลาบาสเตอร์
ศูนย์กลางการทำ “กระดาษปาปีรุส” ซึ่งเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกทำจาก ต้นกก (Papyrus) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้า และเหตุการณ์ต่างๆ ในสมัยโบราณ แวะชม โรงงานผลิตหัวน้ำหอม ซึ่งกล่าวกันว่าการทำน้ำหอมแบบนี้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยพระนางคลีโอพัตรา
พิพิธภัณฑ์ไคโร (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์) อันเลื่องชื่อ เป็นสถานที่ที่รวมศิลปวัตถุโบราณมากมายที่สุด แห่งหนึ่งของโลก และ มัมมี่อียิปต์ ที่มีชื่อเสียง ชมโลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ อาทิเช่น เตียงบรรทม รถศึกและเก้าอี้บัลลังก์ทองคำ
ซึ่งมีภาพสลักนูนต่ำบนพนักเก้าอี้อันแสนโรแมนติกมาก เป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักอันลึกซึ้ง นอกจากนี้ท่านยังจะได้ชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ฝีมือประณีต สิ่งของทั้งหมดล้วนมีอายุเก่าแก่กว่า 3,300 ปี
“ตลาดข่านเอลคาลีลี” ท่านสามารถเลือกซื้อของพื้นเมืองสวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือ สินค้าต่างๆ ที่ทำจากหนังอูฐ เครื่องทองรูปพรรณและเพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกต่างๆ
เที่ยวอียิปต์บุกแดนฟาโรห์ ดินแดนแห่งอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างน่าชื่นชม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ติดตาม เรื่องแปลก ใหม่ ตลก สนุก เซ็กซี่ sexy น่าสนใจอื่น ๆ หรือแวะมาทักทายกัน ได้ที่
ขอขอบคุณที่มา : email
www.facebook.com/somphon http://gplus.to/somphon www.twitter.com/samaphon www.facebook.com/somphon.me http://samaphon.blogspot.com/ |
ขอขอบคุณที่มา : email