คนรักรถ ที่วันนี้มีวิธีรักษาสีรถมาบอก
- ไม่ควรจอดรถไว้ใกล้ ๆ กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยสารเคมี เช่น โรงงานผลิตอาหารสัตว์ โรงงานผลิตสารเคมี เพราะฝุ่นละอองจากอาหารสัตว์หรือสารเคมี ที่ปลิวมาติดผิวสีของรถอาจจะเป็นกรดหรือด่างเข้มข้นสามารถกัดสีให้เป็นจุด เป็นดวงได้หรือทำให้สีอ่อนตัวลงได้
- ควรพยายามจอดรถในที่ร่มหรือที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นไม่อับชื้น หากจำเป็นต้องจอดกลางแดดควรใช้ผ้าคลุม
- เมื่อขับรถผ่านบริเวณที่มีฝุ่น โคลน หรือชายทะเลเป็นเวลานานๆ ควรล้างฝุ่น โคลนหรือคราบต่างๆ ออกให้หมดเพราะคราบเหล่านี้ สามารถดูความชื้นได้ดี จึงทำให้ผิวสีเสื่อมคุณภาพได้ง่าย และบางครั้งสิ่งสกปรกที่เกาะติดผิวสีรถก็เป็นสารเคมีที่ทำอันตรายต่อสีรถ ด้วย
- อย่าทำให้รถเกิดรอยขีดข่วน หรือหลุดร่อนเพราะจะทำให้ตัวรถผุและจะลามออกเป็นบริเวณกว้างทั้งนี้เพราะรอย ขีดข่วนจะไม่สามารถป้องกันความชื้นระหว่างผิวสีกับผิวโลหะได้
- หากมีคราบน้ำมันหรือสารเคมีต่างๆ เปื้อนผิวสี ต้องรีบล้างออกทันที โดยใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด หรือ ผสมสบู่อ่อนๆ หรือ แชมพูสำหรับล้างรถก็ได้ ห้ามใช้ทินเนอร์ น้ำมัน หรือ สารเคมีใดๆ ทำความสะอาดสีรถโดยเด็ดขาด สารเคมีที่มีโอกาสจะถูกสีรถได้ง่ายก็คือ น้ำมันเบรกซึ่งจะกัดสีในทันทีที่สัมผัสกับสีรถ การใช้จึงต้องระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น และ น้ำหอมประจำรถก็มีผลต่อสีรถเช่นกัน หากหกเลอะรถควรรีบใช้ผ้านุ่มที่สะอาดเช็ดออกโดยเร็วและล้างด้วยน้ำ
- สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ควรจะเคลือบสีทุกครั้ง หลังจากการล้างรถ เพื่อป้องกันสิ่งต่าง ๆ ที่จะมาทำลายสีรถ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการขัดเคลือบสี ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการเคลือบสี
เพียงเท่านี้ก็สามารถรักษาสีรถไม่ให้หลุดลอกได้ง่าย
ขอขอบคุณ : เดลินิวส์ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น