เรื่องแปลก ใหม่ น่าสนใจ ข่าวสาร บันเทิง สนุก เซ็กซี่ sexy ที่คุณ อยากรู้ ที่นี่ครับ ^^
“ได๋” น้ำตาปริ่ม สารภาพถูก “กอล์ฟ” ทิ้ง
“ได๋” น้ำตาคลอถูก “กอล์ฟ” ตีตัวออกห่าง เหตุตนเองฉาวเกินข่าวซดเกาเหลา “พลอย” และไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ ทำอีกฝ่ายปวดหัวกับการต้องมาตอบคำถาม และมองกำลังถูกหลอกใช้ รับเสียใจไม่กล้าโทรไปปรับความเข้าใจ ปัดยังอาลัยอาวรณ์ “นาวินต้าร์” และมีกิ๊กใหม่เป็นเพื่อน “บีม ศรัณยู”
หลังจากอ้ำๆ อึ้งๆ และพยายามเลี่ยงสื่อตอบคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับ “กอล์ฟ ฐิติพันธ์ เกยานนท์” มาหลายครั้ง แต่ในที่สุดพิธีกรหน้าหมวย “ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ” ก็ยอมเปิดปากถึงเรื่องนี้จนได้ พร้อมกับอาการจุกอกมีน้ำตาปริ่ม สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีตลอดการให้สัมภาษณ์ โดยได๋ยอมรับว่าเป็นเพราะตนเองมีข่าวฉาวเรื่องเกาเหลา “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” รวมทั้งยังไม่มีความชัดเจนในความสัมพันธ์ จึงทำให้ฝ่ายชายตีตัวออกห่างก่อน
“ใครเลือกที่จะหยุดก่อนกัน อืม..ก็น่าจะเป็นเขาที่ตีตัวออกห่างก่อน มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ไม่ได้คุยกัน เสร็จแล้วก็เคลียร์ว่าเขาเป็นคนรัก ก็โอเคคุยกันอยู่แป๊บนึง หลังจากนั้นก็เข้าใจว่าได๋อาจจะไม่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มเองเลยเป็นแบบนี้ เพราะบางคน...ก็พูดแล้วให้มันเคลียร์เลยละกันจะได้ไม่ต้องพูดอีก และก็คือได๋ไม่(นิ่งก่อนถอนหายใจ) คือพี่เข้าใจใช่ไหมว่า ได๋ทำงานทุกวันปกติ เราเป็นพิธีกรก็ต้องออกจากบ้าน แต่สองเดือนที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เมื่อกี้ก็เห็นบอกขอถ่ายรูปเฉยๆ แต่กลายเป็นสัมภาษณ์”
“คือที่เขาเลือกตัดความสัมพันธ์ลง อาจเป็นเพราะเขาไม่สะดวกใจที่จะคุยมากกว่า เพราะเขาไม่รู้ว่ายังไง ข่าวมันก็ออกมาเยอะ ออกจากบ้านมาทุกวันก็ต้องมาตอบคำถาม ช่วงแรกๆ เขาอาจจะมองว่าได๋ไม่ชัดเจน พอได๋บอกว่าโอเคเขาเป็นคนรัก ก็หาว่าเราหลอกใช้ หลอกอยู่ด้วยฆ่าเวลาหรือเปล่า ทำไมถึงยังเป็นข่าวแบบนี้อีก เขาก็ยังต้องตอบคำถามสารพัด เขาเองก็อาจจะปวดหัว”
“ส่วนที่เขาออกมาแถลงข่าววันนี้ได๋ไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่เขาแมสเซจมาบอกแล้ว ถามว่าสำหรับเรามันเคลียร์ไหม คือตั้งแต่มีข่าวเขาก็บอกกับเราว่า อยากให้เคลียร์ตัวเอง เขาคงปวดหัวกับเรามาก คนรอบข้างเขาก็มีคำถามเกิดขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาคุยกันเหมือนเดิมได้ไหม ไม่รู้เหมือนกัน....เหตุการณ์ที่ผ่านมาอาจทำให้เราเลิกคุยกันได้ มันก็คงประมาณนั้น”
“ที่มีข่าวว่าที่ผ่านมาเราพยายามขอคืนดี มันก็เป็นข่าวอยู่ทุกวันก็ไม่รู้ทำไง เราเองก็ไม่กล้ารบกวนที่จะโทรไปปรับความเข้าใจเขา เพราะเราเองก็ต้องเข้าใจความรู้สึกเขา เขาเองก็คงลำบากใจ เราลำบากใจแคร์คนไหน คนที่เราแคร์ก็คงลำบากใจมากกว่า เราเองรู้สึกเสียใจแน่นอนอยู่แล้ว คนรู้สึกดีกันขนาดนี้ แต่พอมันมีเรื่องขึ้นมาก็ไม่เป็นไรค่อยๆ เคลียร์ไป เราอยู่ตรงนั้นมันก็เป็นข่าว ก็ไม่รู้จะทำยังไง”
ถอนหายใจกับกระแสข่าวครอบครัว “กอล์ฟ”ไม่ปลื้ม เหตุเจ้าตัวฉาวบ่อยทำให้ส่งผลต่อธุรกิจ
“กระแสข่าวที่ว่าทางครอบครัวกอล์ฟไม่ปลื้มเพราะส่งผลทางธุรกิจ เฮ้อ..(ถอนหายใจ)ครั้งแรกที่มันมีเรื่องขึ้นก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้มันก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด แล้วมันก็ไม่มีอะไรจริงๆ วันนี้ก็มีนักข่าวไปถามเขาว่ารู้หรือเปล่าได๋แอบไปกิ๊กกับเพื่อนบีม (ศรัณยู ประชากริช) ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ก็รู้จักเคยเจอกันครั้งเดียว ปฏิเสธเลยค่ะว่าไม่ได้กิ๊กกัน ก็บริสุทธิ์ใจ พอมีข่าวเกิดเรื่องขึ้นมาอีก เขาก็ถามว่าตกลงยังไงอะไรอีก มีข่าวออกมาแบบนี้เราห้ามความคิดคนอื่นเยอะแยะไม่ได้ ตัวเขาเองก็รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่ว่าคนรอบข้างเขาก็จะมีคำถาม แต่อยากให้รอดูต่อไป กับข่าวที่ผ่านมาถือว่าเป็นข่าวที่รบกวนจิตใจมากที่สุดตั้งแต่เกิดมาก็ว่า ได้”
ปฏิเสธยังอาลัยอาวรณ์คนรักเก่าอย่างนักร้องหนุ่ม “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” อยู่ บอกเรื่องจบไปนานแล้ว พร้อมรับทุกครั้งที่ตอบคำถามจะนึกถึงจิตใจ “กอล์ฟ” ว่ารู้สึกอย่างไร
“คือกระแสข่าวมันออกมาเยอะมากว่ายังอาลัยอาวรณ์ ถามว่ามีปัญหากันเพราะเรื่องอะไร คือจริงๆ เรื่องของได๋กับคนที่ทำให้เป็นข่าวกัน มันจบนานมากแล้วตั้งแต่ความสัมพันธ์เป็นศูนย์ มันจบไปสองปีแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ไม่มีโอกาสอะไรที่จะพูดได้ บางคนไปว่าเขาว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ….ไม่ใช่ คนที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษก็คงจะเป็นได๋เอง ถ้าจะพูดอย่างนั้น เพราะได๋เป็นคนที่ไม่อยากเป็นข่าวเอง ขอว่าไม่ต้องพูดอะไรมากได้ไหม ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ แล้วบางคนก็ไม่เข้าใจก็คิดไปต่างๆ นานา มันก็เลยแตกแขนงแยกกันไป คนโน้นคิดอย่างนี้ คนนี้คิดอย่างนั้น และพอไปถามเขามันก็เลย.. ก็เข้าใจ พอตื่นมาทุกวันก็ต้องมาตอบคำถามแค่นั้นแหละไม่มีอะไร”
“คือได๋ก็เป็นข่าวอยู่ทุกวัน ทุกครั้งเวลาที่เราจะต้องให้สัมภาษณ์ สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวก็คือแล้วกอล์ฟจะคิดยังไง เพราะยังไงคุณพ่อคุณแม่ได๋ก็เข้าใจอยู่แล้ว ก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันว่า เราไม่ได้ทำอะไรจริงๆ”
“ถามว่ากับเรื่องนี้ได้บทเรียนอะไรบ้างไหม อืม...ไม่ค่ะ ก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม ส่วนใครที่จะเข้ามาต้องปรับตัวเข้าหาเราไหม ตอนนี้ไม่อยากคิดอะไรมาก ก็ใช้ชีวิตไปปกติ ส่วนเรื่องปรับความเข้าใจกับเขา ได๋ว่าเดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน”
มาดูกันว่าคนเกิดวันไหนเจ้าชู้กว่ากัน
วันอาทิตย์
คนเกิดวันอาทิตย์ เป็นคนชอบเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย เป็นคนมีความคิดโลดแล่น รวดเร็ว และใจร้อน เช่นเดียวกันกับในเรื่องของความรัก เมื่อหลงรักใครแล้วจะตามตื้อให้สำเร็จจนได้ เป็นคนรักสนุก ชอบคนที่ดูดีมีเสน่ห์ไม่เรียบง่ายหรือเชยจนเกินไป เป็นคนมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีความสดใสน่ารัก และร่าเริงทำให้มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ใครเห็นใครก็ชอบแต่ค่อนข้างดื้อรั้นและหัวเแข็ง ซึ่งบางครั้งทำให้ไม่ยอมอ่อนข้อต่อใคร
บางทีความรักต้องสิ้นสุดลงไป เพราะความมีทิฐิมานะ เป็นคนค่อนข้างเจ้าชู้ทีเดียว และมีความโรแมนติกในเรื่องความรักมาก ชอบที่จะอยู่คลอเคลียกับคนรักตลอดเวลา รักใครแล้วจะเป็นคนที่รักจริง หวังแต่งเลยนะ แต่ก่อนที่จะพบตัวจริง ก็ชอบที่จะเลือกพบคนใหม่ ๆ เพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกท้าทาย คนเกิดวันนี้ จะมีดวงความรักค่อนข้างดี ถ้าคนรักเข้าใจถึงความใจร้อนไปบ้างของคุณก็จะสามารถคบกันได้นาน
วันจันทร์
คนเกิดวันนี้เป็นคนเจ้าชู้หลบใน (ก็เจ้าชู้เงียบ ๆ นั่นแหละ) ไม่แสดงออกเด่นชัดเหมือนคนวันอาทิตย์ มักจะแอบโปรยเสน่ห์ ให้ใครต่อใครหลงใหลอยู่เสมอ เพราะความที่เป็นคนน่ารักสุภาพ อ่อนโยน อีกทั้งยังฉลาดเฉลียว แถมยังเข้าอกเข้าใจผู้อื่นและมีมนุษยสัมพันธ์ดีอีกด้วย
ความจริงคนเกิดวันนี้ ก็เป็นคนที่ค่อนข้างดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน แต่จะค่อย ๆ แสดงออกมา เมื่อคบกันแล้วต้องการให้คนมาเอาอกเอาใจ คนเกิดวันนี้รักความสะดวกสบาย โกรธง่าย หายเร็ว รักแท้ของคนวันจันทร์ มักจะเกิดกับคนที่แตกต่างในเรื่องของอายุ หรือฐานะความเป็นอยู่มากทีเดียว ทำให้ต้องอดทนและฝ่าฟันเหมือนรักแท้ในหนังสุดโรแมนติกประมาณโรส แอนด์ แจ๊ค แห่งไททานิคนั่นเลย แต่ว่าคนวันจันทร์นี้ มักจะสุขสมหวังเสมอในเรื่องความรัก ถ้าดูแลหัวใจตัวเองให้ดี ไม่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปไหน ก็จะมีคู่รักที่คบกันเนิ่นนาน จนเพื่อน ๆ อิจฉาเสมอนั่นแหละ
วันอังคาร
เป็นคนที่มีดวงความรักค่อนข้างดีทีเดียว จะพบรักแท้ที่คบกัน อยู่กันไปอย่างหวานชื่นและสมหวัง อาจจะเป็นคนที่ดูเจ้าชู้ไปสักนิดแต่จริง ๆ แล้วเป็นแค่อยากสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นไม่ได้เป็นนิสัย ถ้าเจอะเจอคนหน้าตาดีหรือบุคลิกถูกใจก็จะส่งสายตาไปก่อนอื่น แต่จะไม่ใช่ คนที่จะต้องเข้าไปขอทำความรู้จักในทันดีทันใด เป็นคนมีนิสัยใจร้อน วู่วามและตรงไปตรงมา แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ที่เพศตรงข้ามหลงใหล
คนเกิดวันนี้เมื่อตกหลุมรักใครแล้ว จะติดตามคอยอยู่ใกล้อย่างตั้งใจ ไม่มีวันจีบทิ้งจีบขว้างอย่างแน่นอน เป็นคนที่แข็งนอกอ่อนใน ใจดี แต่ปากแข็งเมื่อทำผิดมักจะไม่ค่อยยอมง้อทั้งที่ในใจอยากจะง้อ ใจจะขาด ดวงความรักของคนวันอังคาร จะมีปัญหาก็อยู่ที่เรื่องของอารมณ์เท่านั้น ต้องควบคุมอารมณ์ให้อยู่หรือเลือกคู่ที่เป็นคนใจเย็นสุดสุด ก็จะมีรักที่ยั่งยืนยากที่จะแตกร้าวได้
วันพุธ
คนเกิดวันพุธเป็นคนช่างคิดช่างตรึกตรองช่างเลือกรอบคอบ ในทุกเรื่องรวมทั้งในเรื่องของความรัก คุณจะต้องมั่นใจเสียก่อนที่จะตกลงปลงใจกับใคร เป็นคนที่ต้องการความรักที่ลึกซึ้งมั่นคง ไม่ใช่ความรักเพื่อให้ตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้นเสน่ห์ของคนวันนี้ อยู่ที่การพูดจาที่น่ารักสุภาพ ทำให้ใครต่อใครชื่นชอบรักสนุก และยังเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดีอีกด้วย
คนเกิดวันพุธ มักจะมีความรักแบบที่เริ่มจากความเป็นเพื่อนก่อนแล้วค่อยผูกพันกัน มาเป็นความรักแท้ที่เต็มไปด้วยการเข้าอกเข้าใจกัน รู้จักกันดีมาก เคารพอิสระและเวลาส่วนตัวซึ่งกันและกัน คนเกิดวันนี้ ไม่ชอบดูแค่หน้าตาอย่างเดียว แต่ต้องเป็นคนที่พูดคุยกันรู้เรื่องและมีทัศนคติเหมือนกัน ต้องเป็นได้ทั้งเพื่อนคู่คิดและคนรักในขณะเดียวกัน
วันพฤหัสบดี
คุณเป็นคนมีความโอบอ้อมอารีมีน้ำใจต่อผู้คน มีสติปัญญาดี เป็นที่ยอมรับของคนอื่น เป็นคนรักใครก็รักจริง เกลียดจริง ไม่ชอบการเสแสร้ง หลอกลวง ดวงความรักค่อนข้างเรียบง่าย ไม่โลดโผนมากนัก เป็นคนน่ารัก เปิดเผย จริงใจ และมีความมุ่งมั่นสู่จุดหมาย ไม่เลื่อนลอยไร้สาระ เป็นคนไม่เจ้าชู้ ถ้ารักใครก็จะซื่อสัตย์และรักเดียวต่อคนรัก ของตัวเองไม่คิดนอกใจไปมีใครอื่น
หากต้องผิดหวังในเรื่องความรัก ก็จะเป็นเพราะการมองโลกในแง่ดีจนเกินไป หรือคิดไปเองว่าใครคนนั้นมีใจด้วย แต่เมื่อผิดหวังก็ไม่ปล่อย ตัวเองให้จมปลักกับความเจ็บปวด แต่จะพยายามทุ่มเทในเรื่องที่ตนสนใจ ให้ลืมความเจ็บปวดนั้น คนวันนี้ชอบคนที่เรียบง่าย มีนิสัยความชอบคล้าย ๆ กัน ไม่หรูหราฟุ่มเฟือยจนเกินไป
วันศุกร์
คนเกิดวันนี้มีเรื่องราวของความรัก ๆ ใคร่ ๆ มาวนเวียนประจำหัวใจ อยู่เสมอเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบที่จะดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ เมื่อรักใครชอบใครแล้ว ก็จะเอาอกเอาใจเป็นอย่างดี เรียกว่าทุ่มจนสุดหัวใจเลยทีเดียว (เจ้าบุญทุ่มตัวจริง) แต่ก็ต้องการการตอบสนองอย่างเดียวกันจากคนรักด้วย ไม่ฉะนั้นจะรู้สึกน้อยใจมาก
เสน่ห์ของคนวันศุกร์ อยู่ที่ความอ่อนหวาน เป็นคนใจกว้างและซื่อตรง บางครั้งออกจะขี้ระแวงคนรักจนเกินเหตุไปด้วยซ้ำ ดวงความรักของคนเกิดวันนี้ค่อนข้างอาภัพ (ฮือ ๆ) ทั้ง ๆ ที่มีคนมารักชอบอยู่เยอะ แต่ก็มักจะจบลงเพราะความไม่มีเหตุผลและเจ้าอารมณ์ของคุณอยู่นั่นเอง บางคนที่ถึงจะมีรักหวานแสนโรแมนติกเพียงใด แต่กลับต้องลาร้างกันทั้ง ๆ ที่ยังรักกันมาก บางคนก็อาจจะมีความสัมพันธ์รักที่ยั่งยืนอบอุ่น แต่อาจไม่ใช่คนที่คุณเคยรักอย่างหัวปักหัวปำมาก่อน เป็นคนที่มีดวงความรักพิเศษไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
วันเสาร์
น่าอิจฉาที่สุดสำหรับคนเกิดวันเสาร์ เป็นคนโชคดีในด้านความรัก ไม่ค่อยจะมีปัญหาให้ต้องปวดใจเหมือนคนเกิดวันอื่น ๆ เพราะว่าคนเกิดวันนี้เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว หนักแน่น ใจคอมั่นคง เมื่อคบกับใครก็จะมีคนคนนั้นอยู่คนเดียวในหัวใจ ไม่ชายตาไปให้คนอื่นเลย เมื่อเลิกแล้วถึงจะเริ่มมีรักใหม่ คุณเป็นคนที่ดูสุขุม มีระเบียบ แต่ก็เป็นคนดื้อรั้นไม่เบาทีเดียว
มีความเจ้าชู้แบบเงียบ ๆ คือแค่มองและส่งยิ้มไปบ้าง ไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นประเภทขอแอบรัก แอบชื่นชม อยู่ไกล ๆ มากกว่า คนวันเสาร์เป็นคนที่ทระนง อดทน และมีความมุ่งมั่นใส่ใจคนรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย (น่าอิจฉา คนมีแฟนเกิดวันเสาร์จัง) แต่ก็ไม่ชอบให้แฟนมีนิสัยหรูหราฟู่ฟ่าจนเกินไปนัก เป็นคนช่างเลือก จึงไม่ค่อยคบใครเล่น ๆ เมื่อถูกใจใคร จะใช้เวลาพิจารณานิสัยก่อนที่จะเริ่มรักอย่างเต็มหัวใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องของความรักจะต้องดูถึงเรื่องความเหมาะสมในทุก ๆ ด้านด้วย เช่น อายุ ฐานะ การศึกษา
“มหัศจรรย์แห่งพรรณไม้” ประจำปี 2553 “Power of Love...Power of Roses” ( สวยจัง ;)
ได้ทราบข่าวงาน “มหัศจรรย์แห่งพรรณไม้” ประจำปี 2553 “Power of Love...Power of Roses”จาก Blog OK Nation และคำชวนจากบรรดาเพื่อนฝูง บวกกับเวลาว่างในทิศทางสายสุขุมวิทที่เหมาะเหม็งเสียเหลือเกิน ทำให้วันนี้ได้แวะเวียนเข้าไปเที่ยวชมในงาน “มหัศจรรย์แห่งพรรณไม้” ประจำปี 2553 “Power of Love...Power of Roses” ดังกล่าวที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม
แต่อาจจะเป็นเพราะบุญมี แต่กรรมบัง เดินเทียวชมภายในงานได้ไม่เท่าไหร่ เจ้าเครื่องเรียกทาสกลับดังขึ้น พร้อมกับเสียงปลายทางที่ว่าให้รีบกลับเข้ากรมกองแต่โดยด่วน เพราะงานเข้าเสียแล้ว ทำให้ต้องรีบกลับก่อนที่งานจะเริ่มต้น
แต่ก็ได้ดื่มด่ำซึมซับกับบรรยากาศภายในงานพอสมควร โดยเฉพาะบรรดากุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ที่ได้รับการนำมาจัดแต่งไว้ภายในห้างฯ อย่างสวยงาม และยังหาดูได้ยาก ได้แต่แอบคิดในใจว่า "ไม่เป็นไรงานยังมีถึงวันที่ 1 พฤศจิกา คงจะหาเวลามาแวะชมได้อีกแน่นอน" แต่ก่อนกลับยังไม่วายเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ "กุหลาบ" แสนสวยภายในงานที่ได้รับอภินันทนาการจากทางห้างมาฝากกันค่ะ
“Garden of Love…Garden of Roses” คือ สวนกุหลาบขนาดใหญ่สะพรั่งกลางลานมรกต หลากสีหลายพันธุ์ ร่วมกับไม้ดัดรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งดอกกุหลาบทั้งหมดที่นำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้ ทั้งสวนกุหลาบและในห้างฯ ได้รับความสนับสนุนจากมูลนิธิโครงการหลวงโดย ม.จ.ภีศเดช รัชนี ทรงพระอนุญาตให้นำสายพันธุ์โบราณที่หาชมได้เฉพาะสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งถูกพัฒนาโดยสถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ มาจัดแสดงร่วมกับสายพันธุ์อื่นๆ จากแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดี รวมกุหลาบที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ จำนวนนับล้านดอก
สำหรับดอกกุหลาบจากมูลนิธิโครงการหลวงที่นำมาร่วมจัดแสดง มี 3 ความพิเศษ ด้วยกัน ความพิเศษแรก คือ กุหลาบดำ ได้นำมาแสดงครบ ทั้ง 4 สายพันธุ์ เป็นครั้งแรก ความพิเศษต่อมา คือ กุหลาบอังกฤษโบราณ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง โมเดิร์นโรส กับ การ์เดนวาไรตี้ โดดเด่นด้วยกลีบดอกอ่อนช้อยสวยงาม นำมาแสดง 4 สายพันธุ์ และความพิเศษที่สาม คือนำ 4 สายพันธุ์ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ มาจัดแสดงที่นี่เป็นครั้งแรก
กุหลาบสีดำ (Black Rose)
กุหลาบสีดำ ที่ทำการวิจัยและขยายพันธุ์ โดยมูลนิธิโครงการหลวง ได้เริ่มต้นจากการนำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว โดย คุณสืบศักดิ์ นวจินดา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศเยอรมนี แล้วพบว่ามีกุหลาบสายพันธุ์แบล็กโรสหรือกุหลาบดำ มีสีสะดุดตา เพราะตามปกติแล้วกุหลาบส่วนใหญ่จะมีสีแดงเป็นหลัก แต่กุหลาบพันธุ์ดังกล่าว มีลักษณะสีแดงเข้มมากเหมือนสีเลือดหมู จนเกือบดำเหมือนกำมะหยี่ เมื่อบานเต็มที่มีขนาดใหญ่ จึงนำกุหลาบพันธุ์ดังกล่าวมาปลูกครั้งแรกที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าจะสามารถปรับตัวสายพันธุ์ให้เข้ากับภูมิอากาศบ้านเราได้ จนกระทั่งให้ผลผลิตมีดอกใหญ่เหมือนถิ่นกำเนิดที่ประเทศเยอรมนีไม่ผิดเพี้ยน
กุหลาบสายพันธุ์แบล็กโรส หรือ กุหลาบดำ ที่โครงการหลวงใช้เวลาในการศึกษาและทดสอบมานานกว่า 10 ปี แล้วนั้น ทำให้ทราบว่า กลุ่มกุหลาบสีดำ คือ แบล็กบัคคาร่า/ แบล็กเมจิก/ แบล็กบิวตี้/ บัคคาโร มีความโดดเด่นเรื่องสี เพราะเป็นกุหลาบสีแปลก และมีความพิเศษไม่เหมือนดอกกุหลาบชนิดอื่น แต่ไม่เป็นที่นิยมเหมือนกุหลาบสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีสีสันสวยงามในท้องตลาดทั่วไป
ปัจจุบัน กุหลาบสีดำมีปลูกอยู่ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ซึ่งมีสภาพแวดล้อมและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี จึงเหมาะสมกับการปลูก รวมทั้งผ่านการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับสภาพอากาศภาคเหนือ และการผลิตกุหลาบในกลุ่มแบล็กโรสหรือกุหลาบดำของโครงการหลวงเป็นการผลิตกุหลาบในเชิงคุณภาพโดยการปลูกภายใต้โรงเรือนพลาสติกในพื้นที่จำกัด มีการจัดการการผลิตและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวที่ดี โดยใช้ผู้ที่มีความชำนาญ ทำให้กุหลาบที่ได้มีคุณภาพดี
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงดอกไม้ในโครงการหลวงอีกกว่า 100 สายพันธุ์ในทุกชั้นของห้างเซ็นทรัลชิดลมแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งนับว่าหาดูได้ยาก และไม่ต้องขึ้นเหนือไปดูถึงโครงการพระราชดำริเลยทีเดียว และที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะได้แก่นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงฉายพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต พระบรมราชินีนารถ ซึ่งแสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในด้านนี้อีกด้วย งานจะมีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เท่านั้นนะค่ะ
ขนตาปลอม สำหรับรถ
รถยนต์ก็ไม่รอดพ้นความกุ๊กกิ๊ก วัยหวาน ของสาวๆ ไปได้ ก็ถึงขนาดมีผู้คิดค้น ขนตาปลอมสำหรับติดไฟหน้ารถขึ้นมาได้ แถมราคาก็ชิวๆ (สนนราคาเริ่มต้น 700 บาท ) แถมคุณสมบัติชั้นดีของขนตาปลอมนี้ยังกันน้ำ ติดทนนาน 24 ชม. ไม่มีเลอะ แถมเด้งสมใจ ชนิดที่เครื่องสำอางค์ผู้ผลิตมัสคาร่าต้องทึ่ง
สาวๆ อยากมีกันไว้ประดับรถยนต์ ก็ลองดูเองนะจ๊ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------
สาวๆ อยากมีกันไว้ประดับรถยนต์ ก็ลองดูเองนะจ๊ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------
นิทรรศการหนึ่งในพระราชอัจฉริยภาพ แห่ง “องค์ราชันย์”ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หนึ่งในพระราชอัจฉริยภาพ แห่ง “องค์ราชันย์”
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กับมวลดอกไม้
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กับมวลดอกไม้
ความสนพระราชหฤทัยในการถ่ายภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับการถ่ายทอดมาจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งโปรดการถ่ายรูปและถ่ายภาพยนตร์อย่างยิ่ง และได้สืบทอดมายังพระราชโอรสทั้งสองพระองค์ ซึ่งมักจะมีกล้องถ่ายรูปคล้องพระศอหรือถือในพระหัตถ์เสมอ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษาวิธีการถ่ายภาพด้วยพระองค์เอง หรือสอบถามจากผู้รู้ จนทรงสามารถใช้กล้องได้อย่างชำนาญ ทั้งยังสนพระราชหฤทัยด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ทรงคิดค้นหาเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ในการถ่ายภาพอยู่เสมอ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จึงมีความครบถ้วนในการจัดองค์ประกอบภาพที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสง สี เส้น ลวดลาย พื้นผิว และรูปทรง ทำให้ภาพเด่น มีมิติ มีมุมมองที่แปลกตา โดยทรงใช้เทคนิคถ่ายภาพหลายแบบตามความเหมาะสม
ภาพฝีพระหัตถ์ชุดหนึ่งที่ทรงฉายคือ พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชโอรส พระราชธิดา เมื่อแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักต่างๆ ซึ่งมีภูมิประเทศที่งดงาม เหมาะกับการถ่ายภาพ จะทรงใช้ที่แห่งนั้นเป็นฉากถ่ายภาพ ทั้งนี้ ก็ด้วยมีพระราชประสงค์ว่า การใช้ฉากอันเป็นสถานที่จริง ฉากจะช่วยบอกความหมายอธิบายเรื่องราวและเป็นศิลปะอย่างถูกต้อง ที่สำคัญในพระฉายาลักษณ์ยังทรงเน้นให้เห็นพระราชอิริยาบถและฉลองพระองค์ชุดต่างๆ ที่สอดคล้องเหมาะสมกับมวลไม้ดอกไม้ประดับ และธรรมชาติอันสวยสดงดงาม ภาพถ่ายชุดนี้จึงมีความงดงาม ครบองค์ประกอบศิลป์ เป็นภาพฝีพระหัตถ์อันทรงคุณค่าและหาชมได้ยากยิ่ง
แรกพบ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ย้อนกลับไปในพุทธศักราช ๒๔๙๑ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงศึกษาอยู่ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเมื่อต้องเสด็จพระราชดำเนินไปยังกรุงปารีส หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในขณะนั้น พร้อมครอบครัวได้มาเฝ้าฯ รับเสด็จ
ในครั้งนั้นสมเด็จพระราชชนนี มีรับสั่งให้พระราชโอรสทอดพระเนตรหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากรด้วยว่าสวยน่ารักไหม และยังทรงกำชับว่า ถึงปารีสแล้วโทรบอกแม่ด้วย...เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ถึงปารีสแล้ว จึงโทรศัพท์ตอบคำถามพระราชชนนีว่า “เห็นแล้ว น่ารักมาก”
(จาก “บันทึก เป็น อยู่ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”
โดย ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)
โดย ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)
หม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร นับเป็นคู่สนทนาที่ต้องพระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยเป็นผู้สนใจใฝ่รู้ในศิลปศาสตร์การดนตรี ดุจเดียวกัน
ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในเวลานั้นได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ เฝ้าฯ ถวายการดูแลอย่างใกล้ชิด จนพระอาการหายเป็นปกติ พระสัมพันธภาพจึงลึกซึ้งแนบแน่นเป็นเท่าทวีคูณ
จนเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๒ พิธีหมั้นได้จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่โรงแรมวินด์เซอร์ ประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสวมพระธำมรงค์แด่สตรีผู้เป็นที่รัก ซึ่งเป็นพระธำมรงค์องค์เดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกนาถ ประทานแก่สมเด็จพระบรมราชชนนี
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส
ภายหลังเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จนิวัติพระนครพร้อมพระคู่หมั้น ต่อมาในวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๓ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสพระราชทาน ตามแบบโบราณราชประเพณี ณ วังสระปทุม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดทะเบียนราชาภิเษกสมรสตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดุจเดียวกับประชาชนทั่วไป นับเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดทะเบียนราชาภิเษกสมรสตามกฎหมาย และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ลงนาม
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนำ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ขึ้นสู่ห้องพระราชพิธีบนพระตำหนัก สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และทรงเจิมแด่คู่สมรส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาพระอัครมเหสี หม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ กิติยากร เป็น “สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์” และพระราชทานสายสะพายขัตติยราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์ อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด แด่สมเด็จพระราชินีสิริกิตติ์ เนื่องในการอันเป็นมหามงคลครั้งนี้
กุหลาบภูพิงค์...ราชินีแห่งดอกไม้ และดอกไม้แห่งราชินี
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดความงามของมวลดอกไม้หลากสีสัน โดยเฉพาะดอกกุหลาบ ในครั้งที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ได้ก่อสร้างเสร็จ ในพุทธศักราช ๒๕๐๕ ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสวนป่า ระหว่างตัวพระตำหนักกับเรือนรับรอง ตกแต่งด้วยสวนไม้ใบและสวนหิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรเห็นกุหลาบกอหนึ่ง มีพระราชปรารภว่า โปรดไม้ดอกที่มีหลากสีและกลิ่นหอมเช่นนี้มากกว่าใบไม้ที่มีแต่สีเขียวอย่างเดียว นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “กุหลาบภูพิงค์” โดยมีท่านผู้หญิงสุวรี เทพาคำ เป็นผู้รับสนองพระราชเสาวนีย์ดำเนินการจัดการดูแลให้พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ งดงามไปด้วยหมู่มวลกุหลาบนานาชนิด ถึงกว่า ๒๐๐ พันธุ์
ทั้งหมดนี้คือ งานจัดแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉาย พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กับมวลดอกไม้ ในงาน “มหัศจรรย์แห่งพรรณไม้” ประจำปี 2553 หรือที่เรียกว่างาน “Central Anniversary Flower Extravaganza”
เนื่องในโอกาสปีที่ 60 ของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและวันราชาภิเษกสมรสครบ 60 ปี ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นการถ่ายทอดให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจของล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ พร้อมตระหนักว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม และทรงงานหนักมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่วันแรกที่ทรงขึ้นครองสิริราชสมบัติ ด้วยความรักและพระเมตตาที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ อย่างหาที่สุดมิได้
“ที่สำคัญห้างเซ็นทรัลได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เชิญ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กับมวลดอกไม้ ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่ทรงคุณค่า และหาชมได้ยากยิ่ง มาจัดแสดงที่ล็อบบี้เลาจน์ ห้างเซ็นทรัลชิดลม”
โดยงานตั้งกล่าวจะมีตั้งแต่ วันที่ 28 ตุลาคม ถึง 1 พ.ย. 53
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ติดตาม เรื่องแปลก ใหม่ ตลก สนุก เซ็กซี่ sexy น่าสนใจอื่น ๆ หรือแวะมาทักทายกัน ได้ที่
ขอขอบคุณที่มา : email
www.facebook.com/somphon http://gplus.to/somphon www.twitter.com/samaphon www.facebook.com/somphon.me http://samaphon.blogspot.com/ |
ขอขอบคุณที่มา : email