เธอผู้ไม่แพ้ น้องเค้ก เหยื่อ สาดน้ำกรด จากดาวมหาลัย จนกลายเป็นคนเสียโฉม
Mthainews: รายการวีไอพี ออกอากาศวันที่ 5 กันยายน นำเสนอเรื่องราวความแข็งแกร่งของ น้องเค้กอัญธิกา ธรรมกิตติ นักศึกษาสาวดาวมหาวิทยาลัย ที่วันหนึ่งต้องมาเผชิญกับชะตากรรมที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อคนร้ายบุกถึงสถาบัน สาดน้ำกรด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าเสียโฉม เกือบทั้งหมด อีกทั้งตาซ้ายยังบอดสนิท สุขภาพของเธอต้องย่ำแย่ทั้งร่างกายและจิตใจ เนื่องจากสภาพใบหน้า ร่างกายไม่ได้สวยงามเหมือนเช่นอดีต
แต่เธอก็มีหัวใจเข้มแข็ง และกำลังใจที่ดีจากครอบครัว ทำให้เธอ ยืนหยัดจนถึงวันนี้
น้องเค้ก เคยเป็นดาวมหาลัย ของมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับสองมาได้
คุณกนกวรรณ แสงแก้ว คุณแม่น้องเค้กกล่าวว่า น้องเค้ก เป็นคนน่ารักตั้งแต่เด็กๆ ทำกิจจกรรมโรงเรียนแทบทุกอย่าง นอกจากนั้นเค้กยังขยันเริ่มหาเงินตั้งแต่ม.3 โดยไปเป็นเด็กเสริฟที่โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซต์ หลังจากเลิกเรียน มีรายได้วันละ 200 บาท สามารถจุนเจือครอบครัวได้ ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่
และด้วยรูปร่าง หน้าตาที่สวยงาม ทำให้เธอก้าวเข้าเป็นนางแบบ ตั้งแต่ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ปี1 อาทิ นางแบบนิตยสาร จากนั้น รับเป็นพริตตี้ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ผิวพรรณทั่วไป นอกจากนั้นยังรับพิมพ์งาน งานโฟโต้ชอปไปด้วย รายได้ระหว่างเรียนได้ถึง 1หมื่น ถึง2 หมื่นบาท สามารถนำเงินไปจ่าายค่าเล่าเรียนได้โดยไม่ต้องขอเงินคุณแม่
ด้วยความที่เธอมุ่งมั่นทำงาน เธอเสิร์ชข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จนพบกับชายคนหนึ่ง ที่กำลังหาคนปล่อยของไปขาย เช่นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยเธอไปทำความรู้จัก ติดต่อเรื่องงาน แต่ทำได้สักพัก การขายมีคู่แข่งขึ้น จนวันหนึ่งงานเงียบไป แต่วันหนึ่งชายคนดังกล่าวโทรขอความช่วยเหลือให้ช่วย เนื่องจากถูกตั้งข้อหา คดีพยายามฆ่า จนคดีสิ้นสุด
แต่เรื่องระหว่างเขาและเธอไม่สิ้นสุด เมื่อชายคนนี้โทรจิก โดยอ้างว่าเรื่องคดียังไม่จบ หลังจากนั้นชายคนนี้ก็สารภาพรัก แต่เธอปฏิเสธไป ชายดังกล่าวจึงตั้งคำถามขึ้นว่า “ในเมื่อไม่ชอบ จะไปช่วยทำไม” จนกระทั่งเรื่องราวบานปลายถึงขั้น ขู่ ดักทำร้าย ถ้าเขาไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ได้ จนต้องแจ้งความกับตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ สิ่งที่ได้กลับมาคือคำขู่ของชายคนเดิม ที่ล่าวว่า ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรขึ้นมา นั่นก็คือฝีมือตน
ด้วยความชะล่าใจ ในมหาวิทยาลัย สัปดาห์ที่สอง เธอถูกชายคนเดิมสาดน้ำกรดเข้าที่ใบหน้า ความรู้สึกทั้งร้อน แสบ มีควันขโมง พยายามเหลือบตาเห็นร้านซักรีด จึงรีบเอาฝักบัวราด เพื่อนของเธอจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
น้องเค้กต้องรักษาตัวด้วยการสครับเนื้อที่ตายออก เพื่อไม่ให้ติดเชื้อด้วยความทรมาน ความแสบ คัน ทำให้เธอร้องไห้ด้วยความทุกข์ ราวกับมดคันไฟทั้งรังรุมกัดตัว พญ.พงศ์รวี โอแสงธรรมนนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลยันฮี แพทย์เจ้าของคนไข้ระบุว่า ส่วนของเนื้อตายต้องตัดทิ้ง ซึ่งแผลน้องลึกมาก ปัจจุบันยิงเลเซอร์ไป 27 ครั้ง ฉีดยา 15-16 ครั้ง ยังต้องรักษาต่อเนื่อง
น้องเค้กกล่าวว่า หลังจากที่ส่องกระจกเห็นใบหน้าตัวเอง เธอรับไม่ได้ พร้อมกับร้องไห้ ล็อคประตูขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำโรงพยาบาล ครั้งนั้นเธอบอกว่า จะอยู่อย่างไรหน้าตาแบบนี้ ผี หรือคน แต่โชคดีที่มีคุณแม่คอยปลอบใจ อธิบาย และให้ความรักมาโดยตลอด
“ ลูกสวยที่สุดสำหรับแม่ คนเป็นแม่ยิ่งเห็นสภาพลูก ยิ่งเจ็บยิ่งกว่า แม่ไม่เคยร้องไห้ให้ลูกเห็น ” คุณแม่กล่าว
จนวัหนึ่งเธอเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก เสียใหม่ด้วยความที่เห็นความลำบากของพ่อแม่ ที่เฝ้าดูแลเธอ จนหมดเงินไปมากพอสมควร โชคดีที่เธอเป็นคนไข้ในพระราชูปถัมภ์
ส่วนคนร้าย น้องเค้ก พยายามคิดว่า ชาตินี้เป็นการชดใช้กรรมที่เคยทำมาชาติที่แล้ว อโหสิให้แก่กัน บวกทั้งไม่มีพยานหลักฐาน จึงไม่สามารถเอาผิดได้ คนร้ายอาจไม่ใช้เขา แต่อาจเป็นคนที่ถูกจ้างมา ขณะที่คุณแม่บอกว่า ในเมื่อลูกไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ ก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะได้ แต่แน่นอนคุณแม่ยังทำใจไม่ได้จนถึงปัจจุบันในฐานะคนเป็นแม่
น้องเค้ก กล่าวว่า ปัจจุบันสุขภาพกายดีขึ้นแล้ว 50% แต่จะมีปัญหาเรื่องแผลเป็น และต้องรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราช และการรักษาเรื่องการผ่าตัดศัลยกรรมที่โรงพยาบาลยันฮี ซึ่งการรักษาจะต่างจากคนทั่วไปเนื่องจากน้ำกรดทำลายผิวถึงชั้นที่สอง ทำให้เมื่อต้องโดนแดด หากไม่ป้องกันไม่ใส่หมวก หรือไม่ทาครีมกันแดด ผิวจะไหม้ ล่าสุดต้องผ่าตัดใบหู เนื่องจากโดนน้ำกรดกินไปจนไม่มีเนื้อเยื่อ เหลือแต่รูหู ต้องนำกระดูกอ่อนของหูข้างซ้ายมาทำเป็นโครง แล้วเอาผิวหนังใต้แขนมาทำเป็นเนื้อ
น้องเค้กวางอนาคตไว้ว่า จะเรียนต่อในระดับปริญญาโท เพื่อศึกษาในระดับที่สูงขึ้น และปัจจุบันถึงแม้ว่าจะเสียโฉม ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ยังมีชายหนุ่มที่เคยรู้จัก รับสภาพที่เธอเป็นได้ ไม่เคยทอดทิ้งเธอ แต่น้องเค้ก ยังไม่ตกลงปลงใจ
เธอได้ประสบการณ์เรื่องคน ว่า โลกไซเบอร์ เราจะไม่รู้นิสัยว่าเป็นอย่างไร ต้องระมัดระวังยิ่งกว่าคนที่เรารู้จักทั่วไป ส่วนใครที่ท้อแท้สิ้นหวัง น้องเค้กกล่าวว่า อย่ามัวนั่งเศร้า เสียใจ อย่าไปยึดติดกับมัน มองสิ่งที่เหลือว่าเราจะทำอะไรได้ต่อ ลุกแล้วเราจะมองเห็นสิ่งที่ดีๆเยอะแยะในโลกใบนี้ เพราะมียังมีหลายสิ่งมากมายให้เราเผชิญ
หัวใจอันแข็งแกร่งของหญิงสาว อย่างน้องเค้ก ที่ต่อสู้กับบาดแผลอันแสนสาหัสทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง สำหรับที่ใครท้อแท้สิ้นหวัง เผชิญหน้า ลุกและสู้กับมัน แล้วเราจะผ่านมันไปได้ อย่างที่น้องเค้กได้บอกเอาไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น