ชูวิทย์”โดนใจ! แผลงฤทธิ์กลางสภา สวมบทฝ่ายค้านเชิงรุก ฉีกกฎการเมือง
ในวันแถลงนโยบายรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลที่ผ่านมา ในหน้าจอทีวี ประชาชนจะเห็นภาพนักการเมืองสวมบทนักพูดโต้วาที ใช้คารมถกเถียงไปมา ผลที่ได้มี้เพียงความสะใจ ที่ใช้วาจาอย่างดุเดือด แต่ที่เป็นไฮไลท์แหวกแนว ก็คงจะเป็นบทบาทของ “เสียอ่าง”ผันมาเป็นนักการเมืองที่ออกมาแฉหลักฐาน “บ่อนกลางกรุง”
ความ แตกต่างด้วยวาทกรรมที่ดุเดือดนำพาให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย เข้ามาดำรงตำแหน่งในสภา ด้วยความคาดหวังจากประชาชนว่า จะเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แม้ว่าช่วงเปิดสภานัดแรกจะมีความวุ่นวาย แย่งที่นั่งกันในสภา แต่นั่นก็ไม่สำคัญไปกว่า การเดินหน้าทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ด้วยการโชว์หลักฐาน แฉคลิป “บ่อนกลางกรุง” ให้เห็นชัดเจน ชนิดที่บรรดาตำรวจผู้รับผิดชอบทั้งหลายต้องวิ่งวุ่นกันเป็นแถว เป็นสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปะละเลย และสังคมไทยยังมีปัญหาเรื่องอาชญากรรมอยู่
นอก จากนั้น การออกมาแฉ ทั้งคลิปบ่อนกลางกรุง และเรื่องส่วยในบ่อนดังกล่าว ระบุว่าเจ้าของบ่อนส่งส่วยให้ตำรวจที่รับผิดชอบวันละ 2 ล้านบาท เดือนหนึ่งตกราว 60 ล้านบาท แต่หลังจากที่เปิดเผยได้เพียงหนึ่งวัน เจ้าของบ่อนก็ย้ายของหนี ชนิดที่เล่นซ่อนหาอย่างไรก็ยากที่จะหาเจอ
และ การทำงานที่ล่าช้านั่นเอง ส่งผลให้ผู้รับผิดชอบงานเข้าอย่างจัง และทางสตช.ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชระมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร และ รอง ผกก.ปป รอง ผกก.สส. สวป. และ สวส.สน.สุทธิสาร หรือ 5 เสือโรงพักสุทธิสาร ให้ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นเวลา 30 วัน
ผลงานที่สื่อทุกสำนักรายงานข่าวกันครึกโครม ยังผลให้ชูวิทย์ กลายเป็นดาวเด่น ที่ศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ ระบุสาธารณชนถึงร้อยละ 90.7 ยกให้เป็นนผู้อภิปรายได้ถูกใจและเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมมากที่สุด และเป็นเรื่องที่น่าจับตามองจากประชาชนว่า ตำรวจจะหาตัวซ่อนแอบเจอหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ ระบุว่าหลังจากนี้จะยุติการแถลงข่าวเกี่ยวกับบ่อนพนัน โดยขอให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาการทำงานของตำรวจเอง
ขณะ ที่บางส่วนตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของ นายชูวิทย์ว่า อาจรับงานจากพรรคเพื่อไทย มาเลื่อยเก้าอี้ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ ผบช.น. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดาโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ปฏิบัติการแบบแนบเนียน ผลักดันให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขึ้นตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” แทน ตามคำสั่งจากนายใหญ่
ไม่ ว่าจะไปในแง่ไหน กระแสความชื่นชมในตัว ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กลับได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม ที่ประชาชนมองเห็นประโยชน์จากการทำงานคุ้มกับเงินเดือนนักการเมือง ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ชูวิทย์ คืออีกคนหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นตามที่เคยป่าวประกาศไว้ก่อนหน้าครั้งตอนหา เสียงว่า ขอเป็น “ฝ่ายค้าน” เดินหน้าเพื่อประชา และประเทศ
วันนี้ ชูวิทย์ ทำได้หรือไม่ เสียงประชาชนคือผู้ตัดสิน..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น