เชื่อหรือไม่อย่างไรก็ ใช้วิจารณญาณค่ะ
แต่โดยสำหรับเราแล้ว ข่าวนี้เราเชื่อ 80% ขึ้น เป็นไปได้สูงมาก
ขณะนี้สรุปได้เพียงเบื้องต้นว่า รถเก๋งเสียหลักก่อนจึงจะชนรถตู้
และเป็นการชนที่ด้านหน้าไม่ใช่ด้านท้าย ซึ่งสิ่งที่ต้องค้นหาต่อไปคือ
รถเก๋งเสียหลักเพราะอะไร โดยมุ่งไปที่เหตุผลของคนขับเป็นหลัก เพราะ
สภาพรถยนต์และถนนไม่บกพร่อง คือ รถไม่ได้ยางแตก ถนนไม่เป็นหลุมบ่อ
ดังนั้นการเสียหลัก อาจจะมีสาเหตุจากคนขับ เช่น ง่วงนอน รับโทรศัพท์ (บีบี?????????) ฯลฯ
ซึ่งจำเป็นต้องสอบถามจากคนขับต่อไป รวมถึงการนำภาพจากกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆ
มาพิจารณาเปรียบเทียบกับหลักฐานที่ตรวจสอบได้จากที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ในการตรวจสอบซากรถเก๋ง ได้พบรอยสีแดงที่หัวรถด้านซ้าย
แต่เท่าที่ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่สีพ่นรถยนต์ และไม่ใช่สีรถตู้
ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นรอยสีที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ในการตรวจสอบซากรถตู้ยังพบว่า ประตูอยู่ในสภาพปิดสนิท
และเปิดไม่ออกเพราะเสียรูปทรงจากอุบัติเหตุ แต่กระจกหน้าต่างแตกออกหมด
จึงสันนิษฐานได้ว่า ผู้เสียชีวิตที่หลุดออกมาจากรถน่าจะหลุดออกมาทางหน้าต่าง
"ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขับรถเร็วและประมาทเป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุในครั้งนี้
ฉะนั้นการใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดและไม่ประมาท
จึงเป็นแนวทางป้องกันอุบัติเหตุในระยะยาว
นอกจากนี้ในเรื่องของประสบการณ์การขับรถก็มีส่วนสำคัญ
เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินผู้ที่มีประสบการณ์น้อยก็อาจควบคุมรถไม่ได้
ซึ่งในบางประเทศมีการกำหนดว่า ถ้าพึ่งสอบใบขับขี่ผ่านก็จะ
ห้ามใช้ทางด่วน หรือต้องมีผู้ที่มีประสบการณ์นั่งไปด้วย"นายธวัชชัยกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น