พบรอยเท้ามนุษย์โบราณ เชื่ออุทยานภูหินฯ เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อนหลายล้านปี


พิษณุโลก - พบรอยเท้ามนุษย์โบราณ ประทับบนหินร่องกล้า ตอกย้ำความเชื่ออุทยานภูหินฯ เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อนหลายล้านปี      
       ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (16 ส.ค.54) ว่า คณะทัวร์ป่าหน้าฝนของอุทยานภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่เดินทางสำรวจท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ได้พบกับรอยเท้าบนหินก้อนใหญ่ ตามเส้นทางไปลานหินปุ่ม ตรงข้ามกับสะพานมรณะ จึงแจ้งให้นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เข้าตรวจสอบพร้อมแจ้งผู้สื่อข่าวไปพิสูจน์จุดรอบเท้าบนหินดังกล่าว
     
       โดยพบว่าบริเวณดังกล่าวมีรอยเท้าขนาดเล็ก คาดว่าเป็นรอยเท้ามนุษย์โบราณ 1 รอย ฝังอยู่บนลานหินก้อนหนึ่ง บนเขาสูง กลางป่าดิบชื้นสมบูรณ์ เพราะดูจากสภาพแวดล้อม ก้อนหินทรายดังกล่าวปกคลุมด้วยมอสและเฟิร์น ห่างจากถนนลาดยาง ตรงข้ามสะพานมรณะ 700 เมตร
     
       ลักษณะทางกายภาพที่ปรากฏ คือ คล้านกับรอยเท้าคนข้างขวา ข้างเดียว เหมือนกับเหยียบย่ำบนพื้นโคลน แต่เจ้าหน้าที่อุทยานฯใช้มือสัมผัส ก็ต้องตกใจ เพราะมีร่องนิ้วครบทั้ง 5 นิ้ว ปรากฏชัดเจน หากเทียบเท้าของเจ้าหน้าที่ชายแล้ว คาดว่า เป็นรอยเท้าของผู้หญิงแน่นอน เพราะมีขนาดเล็กกว่า
     
       นายไพรัช มณีงาม หัวหน้าอุทยานภูหินร่องกล้า เปิดเผยว่า รอยเท้ามนุษย์ ประทับบนหินที่ภูหินร่องกล้า ถือว่า แปลกประหลาด ยังไม่มีใครสังเกตเห็นมาก่อน แม้เจ้าหน้าที่อุทยานฯเดินสำรวจป่าหลายครั้ง ก็ไม่เคยพบ เพราะรอยเท้ามีหญ้าหรือมอสปกคลุม
     
        “คงไม่มีใคร ลงทุนสร้างรอยเท้ามนุษย์ไปฝังบนเนินหินแน่นอน น่าจะเกิดโดยธรรมชาติ หากพิจารณาจากประวัติศาสตร์ภูหินร่องกล้า ก็ถือว่า ตอกย้ำความเชื่อที่ว่าอุทยานฯภูหินร่องกล้า เคยเป็นชั้นหินแล้วเกิดการสะสมตัวของตะกอนเม็ดกรวด เม็ดทรายใต้ท้องน้ำในยุคหลายล้านปีก่อน” หัวหน้าอุทยานฯเผย
     
       ทั้งนี้ ตามข้อมูลธรณีวิทยาระบุว่า ลานหินแตกและลานหินปุ่ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานฯนั้น เป็นปรากฏการณ์ยุค 50 ล้านปีก่อน ที่มีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก หินร่องกล้าถูกยกตัวสูงขึ้น เพราะถูกแรงบีบอัดสองด้านเกิดเป็นภูเขา ทำให้เกิดรอยแยกคือ ลานหินแตก ส่วนลานหินปุ่ม สันนิษฐานว่าเกิดจากการผุพังของชั้นหิน ต่อมาถูกน้ำกัดเซาะทำให้รอยแตกเป็นร่องลึกและกว้าง กลายเป็นรูปร่างกลมมน มองเห็นเป็นลานปุ่มเรียงราย
     
       แต่รอยเท้า ที่เกิดขึ้นบนหินก้อนดังกล่าวนั้น ยังไม่สามารถระบุกันได้ว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร มีเพียงการสันนิฐานกันว่า น่าจะเป็นร่องรอยมนุษย์ยุคหลายล้านปีก่อน แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีนักวิชาการพิสูจน์แน่ชัด
     
        ส่วนการจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมนั้น ยังลำบาก เพราะรอยเท้าอยู่บนเส้นทางป่ารกทึบ 














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น